ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องว่า ที่ดินตาม ส.ค.1 เลขที่ 104 เป็นของโจทก์ โจทก์ครอบครองตลอดมา พ.ศ. 2497 โจทก์ให้จำเลยซึ่งเป็นบุตรคนโตไปแจ้งการครอบครองแทนต่อมาโจทก์ไปขอออกโฉนดจึงทราบว่าจำเลยแจ้งการครอบครองในนามของจำเลยเอง และจำเลยไม่ยอมถอนชื่อจำเลยออกจาก ส.ค.1 จึงขอให้บังคับจำเลยไปถอนชื่อออกจาก ส.ค.1 และใส่ชื่อโจทก์แทน
จำเลยให้การว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยได้มาโดยบิดายกให้ จำเลยแจ้งส.ค.1 เป็นของจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยไปแจ้ง ส.ค.1 เพื่อตนเอง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ โจทก์ให้จำเลยไปแจ้ง ส.ค.1แทน จำเลยแจ้งเอาเป็นของตนเอง พิพากษากลับให้จำเลยไปดำเนินการถอนชื่อจำเลยออกจาก ส.ค.1 แล้วใส่ชื่อโจทก์แทน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า โจทก์เป็นเจ้าของมีสิทธิครอบครองในที่พิพาทแต่เห็นว่าเมื่อศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องดำเนินการขอถอนชื่อจำเลยออกจาก ส.ค.1 แล้วใส่ชื่อโจทก์แทน เพราะการแจ้ง ส.ค.1 ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่ผู้แจ้งแต่อย่างใด
พิพากษาแก้เป็นว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








