ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด สาขาบางเขน จำนวน 10 ฉบับ รวมเป็นเงิน 860,981 บาท โดยจำเลย ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คทั้ง 10 ฉบับ ชำระหนี้ให้โจทก์โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินแต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยต้องชำระเงินตามเช็คทั้ง 10 ฉบับ พร้อมดอกเบี้ยเป็นเงิน918,164 บาท แก่โจทก์ แต่จำเลยแจ้งโจทก์ว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้ จำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว ขอให้ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดและพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย

จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบ แต่คบคิดกันฉ้อฉลกับนายชัยยศ ฐิติรัตน์สานนท์ จำเลยออกเช็คระบุชื่อนายชัยยศ โดยขีดฆ่าผู้ถือขีดคร่อมเข้าบัญชี เพื่อเป็นการค้ำประกันหาได้เพื่อชำระหนี้ไม่

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เช็คพิพาททั้ง 10 ฉบับ เป็นเช็คสั่งจ่ายเงินแก่นายชัยยศ ฐิติรัตน์สานนท์ โดยขีดฆ่าคำว่า "หรือผู้ถือ"ออก แม้นายชัยยศ จะได้ลงลายมือชื่อว่า "ชัยยศ ฐิติรัตน์สานนท์"ไว้ด้านหลังเช็คพิพาททั้ง 10 ฉบับ แต่ตามคำฟ้องและคำเบิกความของโจทก์กับนายชัยยศก็ไม่ปรากฏว่านายชัยยศได้ลงชื่อในฐานะผู้สลักหลังเช็คพิพาททั้ง 10 ฉบับและส่งมอบให้โจทก์ ดังนั้นพยานโจทก์จึงไม่ได้ความว่า นายชัยยศได้ลงชื่อไว้ด้านหลังเช็คพิพาททั้ง 10 ฉบับในฐานะอะไร ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา904 บัญญัติว่า อันผู้ทรงนั้น หมายความว่าบุคคลผู้มีตั๋วเงินไว้ในครอบครองโดยฐานะเป็นผู้รับเงินหรือเป็นผู้รับสลักหลัง ถ้าและเป็นตั๋วเงินสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ ผู้ถือก็นับว่าเป็นผู้ทรงเหมือนกันเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเช็คพิพาททั้ง 10 ฉบับ เป็นเช็คระบุชื่อนายชัยยศเป็นผู้รับเงิน การโอนจะต้องกระทำโดยนายชัยยศซึ่งเป็นผู้ทรงสลักหลังและส่งมอบเช็คแก่โจทก์ โจทก์เบิกความว่าได้รับเช็คพิพาททั้ง 10 ฉบับ ซึ่งนายชัยยศได้รับจากจำเลย จากลูกจ้างคนหนึ่งของโจทก์เมื่อ พ.ศ. 2533 และฎีกาว่าโจทก์รับเช็คพิพาททั้ง 10 ฉบับ ในฐานะผู้รับเงินไม่ใช่ในฐานะผู้รับสลักหลังเพราะยาที่ขายเป็นของโจทก์ไม่ใช่ของนายชัยยศ ดังนี้แม้โจทก์จะมีเช็คพิพาททั้ง 10 ฉบับ ไว้ในครอบครอง แต่โจทก์ก็ไม่สามารถแสดงให้ปรากฏสิทธิด้วยการสลักหลังไม่ขาดสาย จึงถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คพิพาททั้ง 10 ฉบับโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้ธนาคารตามเช็คจะปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์ก็ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยผู้สั่งจ่ายใช้เงินตามเช็คได้ โจทก์จึงไม่ใช่เจ้าหนี้จำเลยตามเช็คพิพาททั้ง 10 ฉบับ จึงไม่อาจฟ้องจำเลยให้ล้มละลายได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th