ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ปลูกสร้างอาคารพักอาศัย 1 หลัง รุกล้ำชานคลองเขตคันคลองชลประทาน คลองข้างคันกั้นน้ำทะเล บริเวณถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ 40 จำนวนเนื้อที่ 60 ตารางเมตรบริเวณตามประกาศกระทรวงเกษตร เรื่อง กำหนดทางน้ำชลประทานตามพระราชบัญญัติ การชลประทานหลวง พ.ศ. 2485 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน2504 และจำเลยทราบประกาศดังกล่าวแล้ว โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากนายช่างชลประทาน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง พ.ศ. 2485 มาตรา 23, 37 พระราชบัญญัติการชลประทานหลวง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2507 มาตรา 12, 17 ให้จำเลยรื้อถอนอาคารที่ปลูกสร้างรุกล้ำเขตคันคลองชลประทาน

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง พ.ศ. 2485 มาตรา 23, 37 จำคุก 2 เดือน และปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้ 1 ปี ให้จำเลยรื้อถอนอาคารที่ปลูกสร้างรุกล้ำเขตคันคลองชลประทานภายในกำหนด 1 เดือนศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "คดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่โจทก์ได้บรรยายฟ้องเกี่ยวกับสถานที่เกิดเหตุที่จำเลยปลูกสร้างอาคารรุกล้ำชานคลองเขตคันคลองชลประทานว่า อยู่บริเวณถนนสุขุมวิทหลักกิโลเมตรที่ 40 จำนวนเนื้อที่ 60 ตารางเมตร ตำบลบางปูใหม่อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ นั้น เป็นการบรรยายถึงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิดพอสมควรที่จะทำให้จำเลยเข้าใจได้ดีแล้ว ฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุมเพราะเหตุนี้ จำเลยฎีกาอีกข้อหนึ่งว่า ฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(6) เพราะไม่ได้อ้างมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2518นั้น เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง พ.ศ. 2485 มาตรา 23 พระราชบัญญัติการชลประทานหลวง(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2507 มาตรา 12 ส่วนพระราชบัญญัติการชลประทานหลวงพ.ศ. 2485 มาตรา 37 พระราชบัญญัติการชลประทานหลวง (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2507 มาตรา 17 และพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง (ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2518 มาตรา 7 เป็นมาตราที่กำหนดโทษในการกระทำความผิดตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว มิใช่มาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดที่โจทก์จะต้องบรรยายไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(6) ฟ้องของโจทก์จึงสมบูรณ์"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th