ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเป็นตัวแทนบริษัทโซวินฟล็อต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐบาลสหภาพโซเวียตบริษัทโซวินฟล็อต จำกัด มีหน้าที่ควบคุมสายการเดินเรือต่าง ๆ รวมทั้งเรือไอโอนา ยาเกียร์ ของบริษัทแบล็คซี ชิปปิ้ง จำกัด ผู้ขนส่งสินค้ารายพิพาทด้วย เมื่อเรือไอโอนา ยาเกียร์ จะเข้าท่าเรือกรุงเทพจำเลยเป็นผู้แจ้งกำหนดเรือเข้าทางหนังสือพิมพ์ และแจ้งให้บริษัทยูโรไทยอินดัสเตรียล ซัพพลายจำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของสินค้าผู้รับตราส่งทราบ บริษัทเจ้าของสินค้านำใบตราส่งมาติดต่อชำระค่าระวางสินค้าแก่จำเลยและจำเลยออกใบรับมอบของหรือใบปล่อยสินค้าให้บริษัทเจ้าของสินค้าไปรับสินค้า นอกจากนี้จำเลยยังเป็นผู้ติดต่อขออนุญาตเช่าเครื่องมือขนถ่ายสินค้าจากการท่าเรือแห่งประเทศไทยด้วย หน้าที่ของจำเลยดังกล่าวแล้วจำเลยได้รับผลประโยชน์ตอบแทน ฉะนั้นจึงต้องถือว่าในการขนส่งสินค้ารายนี้จำเลยเป็นผู้ร่วมขนส่งด้วยคนหนึ่ง โดยไม่ต้องคำนึงว่าจำเลยมีนิติสัมพันธ์กับบริษัทแบล็คซี ชิปปิ้ง จำกัด หรือไม่ส่วนที่ปรากฏว่าเมื่อสินค้ามาถึงท่าเรือกรุงเทพ บริษัทเจ้าของสินค้าผู้รับตราส่งจ้างเรือฉลอมของบริษัทนครไทยขนส่ง จำกัด ให้ไปรับสินค้าที่เรือใหญ่นอกท่าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยนั้น ไม่ปรากฏจากการนำสืบของโจทก์จำเลยว่าการขนส่งในช่วงนี้ของบริษัทนครไทยขนส่ง จำกัด ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สินค้ารายพิพาท แต่กลับปรากฏว่าขณะที่เรือฉลอมของบริษัทนครไทยขนส่งจำกัด ไปรับสินค้านั้น สินค้ามีความเสียหายเพราะกระสอบฉีกขาด มากบ้างน้อยบ้าง สินค้าเสียหายบ้าง เปื้อนเปรอะน้ำมันบ้าง ซึ่งนายเรือของเรือไอโอนายาเกียร์ ได้บันทึกรับรองไว้แล้วตามเอกสารหมาย จ.14 แม้รายการความเสียหายนี้จะไม่ตรงกับการสำรวจความเสียหายครั้งหลังที่ดำเนินการโดยบริษัทเบนแอ๊ดจัสเตอร์ส แอนด์ เซอเวเยอร์ส จำกัด แต่ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก และจำเลยไม่ได้พิสูจน์ว่าความเสียหายนี้เกิดจากเหตุสุดวิสัยหรือเกิดจากสภาพของสินค้านั้นเองหรือเกิดจากความผิดของผู้ส่งหรือผู้รับตราส่ง ฉะนั้นจำเลยซึ่งเป็นผู้ร่วมขนส่งจะต้องรับผิดร่วมกันในความเสียหายทั้งหมดของสินค้ารายพิพาทด้วย

สำหรับความเสียหายของสินค้ารายพิพาทโจทก์นำสืบว่าเสียหายเป็นเงิน 707,474.68 บาท แต่นำสินค้าที่เสียหายขายทอดตลาดได้เงิน74,638.25 บาท จึงเป็นค่าเสียหายที่โจทก์ชำระให้แก่ผู้เอาประกันภัยไป632,836.43 บาท ซึ่งจำเลยมิได้นำสืบให้เห็นเป็นอย่างอื่น จึงต้องฟังว่าโจทก์ได้รับความเสียหายตามจำนวนดังกล่าวข้างต้น ซึ่งจำเลยจะต้องชดใช้ให้แก่โจทก์ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยชนะคดีนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น

พิพากษากลับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 632,836.43 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความให้ 20,000 บาท"

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th