สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1990/2564

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1989 - 1990/2564

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 1 (7), 264 วรรคหนึ่ง, 265

การส่งข้อมูลในรูปแบบทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตถือเป็นการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือเครื่องอิเล็กทรอนิกส์อื่น ซึ่งเป็นวัตถุอื่นใดทำให้ปรากฏและสามารถอ่านและเข้าใจความหมายได้ อันเป็นหลักฐานแห่งความหมาย จึงเป็นเอกสารตาม ป.อ. มาตรา 1 (7)

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีทั้งสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษารวมกัน โดยให้เรียกโจทก์สำนวนแรกว่า โจทก์ที่ 1 เรียกโจทก์สำนวนหลังว่า โจทก์ที่ 2 และเรียกจำเลยทั้งสองสำนวนว่า จำเลย

โจทก์ทั้งสองฟ้องจำเลยเป็นใจความขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265, 268

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 (ที่ถูก 265 (เดิม)), 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 265 (ที่ถูก 265 (เดิม)), การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท และเมื่อจำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสารราชการจึงให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 265 (ที่ถูก 265 (เดิม)), ตามมาตรา 268 วรรคสอง จำคุก 2 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในส่วนที่จำเลยไม่ได้ฎีกาโต้แย้งว่า โจทก์ทั้งสองเป็นคนสัญชาติเกาหลีและติดต่อกับจำเลยผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โจทก์ทั้งสองกับจำเลยตกลงร่วมกันจัดตั้งบริษัทอินฟินิท เพ็ท โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด โดยจำเลยรับเป็นผู้ดำเนินการจดทะเบียนก่อตั้ง ต่อมาบริษัทอินฟินิท เพ็ท โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2559 ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท ในสำนวนคดีหมายเลขดำที่ 3700/2560 หมายเลขแดงที่ 3804/2561 ของศาลชั้นต้น ส่วนสำเนาหนังสือรับรองบริษัทอินฟินิท เพ็ท โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ในสำนวนคดีหมายเลขดำที่ 3700/2560 หมายเลขแดงที่ 3804/2561 ของศาลชั้นต้น ที่ระบุว่าจดทะเบียนเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 ทุนจดทะเบียน 4,000,000 บาท และสำนาหนังสือรับรองบริษัทอินฟินิท เพ็ท โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ที่ระบุว่าจดทะเบียนเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท เป็นเอกสารราชการปลอม มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยประการแรกว่า ศาลชั้นต้นมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้หรือไม่ เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องไว้ในหน้า 4 ว่า โจทก์เชื่อว่าเหตุปลอมหนังสือรับรองบริษัทอินฟินิท เพ็ท โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ฉบับจดทะเบียนเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 และเหตุใช้หนังสือรับรองปลอมเกิดที่แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ของบริษัทอินฟินิท เพ็ท โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ตามที่ระบุในหนังสือรับรองฉบับดังกล่าว จึงเป็นกรณีที่โจทก์ทั้งสองเชื่อว่าความผิดเกิดขึ้น อ้างหรือเชื่อว่าได้เกิดขึ้นในเขตอำนาจของศาลชั้นต้น ดังนั้น ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22 วรรคหนึ่ง

มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยประการต่อมาว่า การส่งข้อมูลในรูปแบบทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์อยู่ในความหมายของเอกสารหรือไม่ เห็นว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1 (7) ได้นิยามคำว่า "เอกสาร" หมายความว่า "กระดาษหรือวัตถุอื่นใดซึ่งได้ทำให้ปรากฏความหมายด้วยตัวอักษร ตัวเลข ผัง หรือแผนแบบอย่างอื่น จะเป็นโดยวิธีพิมพ์ ถ่ายภาพ หรือวิธีอื่นอันเป็นหลักฐานแห่งความหมายนั้น" ดังนั้น การส่งข้อมูลในรูปแบบทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตถือเป็นการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือเครื่องอิเล็กทรอนิกส์อื่นซึ่งเป็นวัตถุอื่นใดทำให้ปรากฏและสามารถอ่านและเข้าใจความหมายได้ อันเป็นหลักฐานแห่งความหมายจึงเป็นเอกสารตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว

มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยประการสุดท้ายว่า จำเลยกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอมหรือไม่ เห็นว่า แม้โจทก์ทั้งสองไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นว่าจำเลยเป็นผู้ปลอมสำเนาหนังสือรับรองของบริษัทอินฟินิท เพ็ท โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ในสำนวนคดีหมายเลขดำที่ 3700/2560 หมายเลขแดงที่ 3804/2561 ของศาลชั้นต้น ที่ระบุว่าจดทะเบียนเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 ทุนจดทะเบียน 4,000,000 บาท และสำนาหนังสือรับรองของบริษัทอินฟินิท เพ็ท โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ที่ระบุว่าจดทะเบียนเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท แต่การที่จำเลยรับเป็นผู้ดำเนินการจดทะเบียนก่อตั้งบริษัท โดยโจทก์ทั้งสองเป็นผู้ลงทุน ต่อมาจำเลยก็ดำเนินการจนได้หนังสือรับรองของบริษัทอินฟินิท เพ็ท โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ฉบับจดทะเบียนเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท และ 4,000,000 บาท จากนั้นนำไปใช้อ้างแสดงว่าได้ดำเนินการแล้วเสร็จจนเป็นเหตุให้โจทก์ทั้งสองโอนเงินค่าหุ้นให้แก่จำเลย คนที่เกี่ยวข้องกับหนังสือรับรองของบริษัทฉบับดังกล่าวจึงมีจำเลยเพียงคนเดียว การปลอมเอกสารซึ่งอยู่ในความยึดถือของจำเลยนั้นย่อมมีโอกาสทำได้ในที่ลับ เป็นการยากที่จะมีประจักษ์พยาน ฉะนั้น พยานประพฤติเหตุบ่งว่าจำเลยเป็นผู้ปลอมหนังสือรับรองของบริษัทอินฟินิท เพ็ท โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ฉบับจดทะเบียนเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558 ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท และ 4,000,000 บาท ส่วนการที่จำเลยนำหนังสือรับรองของบริษัทที่จำเลยปลอมขึ้นดังกล่าวส่งไปให้โจทก์ทั้งสองทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ในชื่อบัญชีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ของจำเลยไปยังชื่อบัญชีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ของโจทก์ทั้งสอง รวมทั้งของนางสาวคาเรน ผู้ช่วยของโจทก์ที่ 2 จึงเชื่อได้ว่าจำเลยเป็นผู้ใช้เอกสารราชการปลอมดังกล่าวด้วย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอมมานั้น ชอบแล้ว ส่วนฎีกาข้ออื่น ๆ ของจำเลยไม่จำต้องวินิจฉัยเพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.309-310/2564

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาย จ. กับพวก จำเลย - นาย น.

ชื่อองค์คณะ อุทัย โสภาโชติ ภานุวัฒน์ ศุภะพันธุ์ วินัย เรืองศรี

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลอาญาธนบุรี - นางเนตรดาว มโนธรรมกิจ ศาลอุทธรณ์ - นายวินัส สุนนท์

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th