ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 335 ศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้องและสั่งว่า คดีมีมูลฐานรับของโจรและประทับฟ้อง โจทก์เห็นว่า ความผิดฐานลักทรัพย์และรับของโจรเป็นข้อเท็จจริงอันเดียวกัน เกี่ยวพันกัน จึงฟ้องจำเลยฐานลักทรัพย์
ศาลอาญาสอบโจทก์ ๆ แถลงว่า ชั้นสอบสวน พนักงานสอบสวนฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร จำเลยรับสารภาพฐานรับของโจร ศาลแขวงจึงสั่งมีมูลและประทับฟ้องฐานรับของโจรส่วนฐานลักทรัพย์มิได้สั่งอย่างไร ศาลอาญามีคำสั่งว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ไม่รับฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาได้วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่า โจทก์อาศัย มาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 ฟ้องจำเลยในข้อหาฐานลักทรัพย์ได้เพราะเป็นข้อเท็จจริงอันเกี่ยวพันหรือต่อเนื่องกับข้อเท็จจริงที่ศาลแขวงสั่งมีมูลฐานรับของโจร
ในกรณีที่โจทก์ฟ้องจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรนั้น ชั้นไต่สวนมูลฟ้องศาลควรสั่งว่า คดีมีมูลหรือไม่มีมูลเท่านั้นไม่ควรสั่งว่ามีมูลฐานใดฐานหนึ่ง เพราะเป็นคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้องเท่านั้น ไม่จำต้องชี้ขาดว่ามีมูลในความผิดฐานใด ควรให้ศาลซึ่งจะพิจารณาพิพากษาคดีนั้นเป็นผู้ชี้ขาดต่อไป
พิพากษากลับ ให้ศาลอาญาประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








