ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือจำเลยมีเมทแอมเฟตามีน อันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำนวน 2 เม็ดน้ำหนักรวม 0.16 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และได้จำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวจำนวน 1 เม็ด น้ำหนัก 0.08 กรัม อันเป็นส่วนหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อไปในราคา 140 บาท เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยธนบัตรฉบับละ 100 บาท จำนวน 1 ฉบับ ฉบับละ 20 บาท จำนวน 2 ฉบับรวมเป็นเงิน 140 บาท และตรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีนที่เหลือจากการจำหน่ายให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อดังกล่าว จำนวน 1 เม็ด และได้เมทแอมเฟตามีนที่จำเลยได้จำหน่ายแก่สายลับผู้ล่อซื้ออีกจำนวน 1 เม็ดกับยึดได้ธนบัตรจำนวนเงินรวม 700 บาท ซึ่งเป็นธนบัตรที่จำเลยได้มาจากการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนจำนวนอื่นก่อนคดีนี้เป็นของกลางขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8,15, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 91ริบเมทแอมเฟตามีนและธนบัตรจำนวน 700 บาท ของกลาง และคืนธนบัตรจำนวน 140 บาท ที่ใช้ล่อซื้อของกลางแก่เจ้าพนักงาน

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่งให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 5 ปีรวมจำคุก 10 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี ริบเมทแอมเฟตามีนของกลางคืนธนบัตรจำนวน 140 บาท ที่ใช้ล่อซื้อของกลางแก่เจ้าของยกคำขอที่ให้ริบธนบัตร จำนวน 700 บาท

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา โดยอัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามที่โจทก์นำสืบว่าในวันเกิดเหตุนอกจากสิบตำรวจตรีสุทธิพงษ์ สุขอุ้ม กับพวกจะจับจำเลยได้พร้อมเมทแอมเฟตามีนของกลางแล้ว ยังคงพบเงินสดจำนวน 840 บาท อีกด้วย ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อจำนวน 140 บาท ส่วนที่เหลืออีก 700 บาท นั้น จำเลยให้การรับว่าเป็นเงินที่ได้จากการขายเมทแอมเฟตามีนก่อนหน้าที่จะถูกจับ กรณีฟังได้ว่าธนบัตรของกลางจำนวน 700 บาทเป็นทรัพย์สินที่จำเลยได้มาโดยได้กระทำความผิด เพราะการขายเมทแอมเฟตามีนเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งคดีนี้โจทก์ได้ฟ้องจำเลยในข้อหามีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อขายและขายเมทแอมเฟตามีนแม้ศาลจะไม่มีอำนาจสั่งริบเงินสดของกลางจำนวน 700 บาท ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 102 ซึ่งเป็นบทเฉพาะก็ตาม แต่เงินสดของกลางจำนวน 700 บาท ดังกล่าวจำเลยก็ได้มาโดยการขายเมทแอมเฟตามีน แม้จะไม่ได้มาโดยการขายเมทแอมเฟตามีนในคดีนี้โดยตรงก็ตาม ศาลก็มีอำนาจริบเงินสดของกลางจำนวน 700 บาทได้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(2)

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ริบธนบัตรของกลางจำนวน 700 บาท ด้วยนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th