ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172, 174, 181

จำเลยให้การปฏิเสธ

ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยไปทวงหนี้นางกุ้ยเองแล้วเกิดเถียงกัน นายชิงชองน้องผัวนางกุ้ยเองได้เข้ามาและเกิดปากเสียงกับจำเลยอีก นายชิงชองได้ใช้กำลังชกต่อยจำเลยจำเลยจึงไปแจ้งความกับร้อยตำรวจโทวินิจรองสารวัตรสถานีตำรวจบางรักว่าจำเลยนำบุหรี่ไปส่งที่ตรอกสองพระ มีนักเลง 3 คนมากลุ้มรุมทำร้ายจำเลยโดยคนหนึ่งใช้ไม้ตีหลัง อีกคนหนึ่งล๊อกคอ อีกคนหนึ่งล้วงเอาเงินในกระเป๋าเสื้อไป 300 บาท จำเลยพาร้อยตำรวจโทวินิจไปยังที่เกิดเหตุร้อยตำรวจโทวินิจสอบถามแล้วได้ความว่าจำเลยมาทวงหนี้นางกุ้ยเองแล้วเกิดปากเสียงกับนายชิงชอง ๆ ได้ชกต่อยจำเลย ไม่มีเรื่องแย่งชิงนายชิงชองรับว่าชกต่อยจำเลยจริง จำเลยก็รับว่าจริง และเงินหายที่ไหนไม่ทราบ ทางตำรวจเปรียบเทียบปรับนายชิงชองเป็นเงิน50 บาท ส่วนจำเลยนั้นร้อยตำรวจโทวินิจเห็นเป็นเรื่องแจ้งความเท็จ ทำให้นายชิงชองและทางราชการตำรวจเสียหาย จึงสอบสวนดำเนินคดีนี้ขึ้นมา

ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยกระทำผิดฐานแจ้งความเท็จ การแจ้งความมิได้เจาะจงตัวผู้กระทำผิด จำเลยจึงผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 มาตราเดียว พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 เดือน และปรับ 200 บาท โทษจำยก

โจทก์อุทธรณ์ว่าเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 174 และ 181 และขอให้ลงโทษให้หนักขึ้น

จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาเช่นเดียวกับที่อุทธรณ์

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยเอาความเท็จมาแจ้งต่อร้อยตำรวจโทวินิจซึ่งเป็นรองสารวัตรสืบสวนและสอบสวน แล้วนำร้อยตำรวจโทวินิจไปในที่เกิดเหตุเพื่อจับกุมคนที่มีเรื่องกับตน คือนายชิงชองร้อยตำรวจโทวินิจได้จับนายชิงชองไปเป็นผู้ต้องหาและความปรากฏว่าที่จำเลยแจ้งความกล่าวหาอันเป็นเรื่องปล้นทรัพย์นั้นเกินความจริงไปความจริงเป็นเรื่องจำเลยมีปากเสียงกับนายชิงชองและถูกนายชิงชองชกต่อยเอาเท่านั้นหาได้มีการชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์กันไม่ การกระทำของจำเลยเห็นได้ว่า การแจ้งความเท็จของจำเลยเป็นการแกล้งจะให้นายชิงชองต้องรับโทษหนักขึ้นนั่นเอง จำเลยจึงมีความผิดดังโจทก์ฎีกาขึ้นมา คำแจ้งความเท็จของจำเลยเป็นการกล่าวหาว่านายชิงชองกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ซึ่งมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 10 ปี การกระทำของจำเลยจึงต้องด้วยมาตรา 181(1) ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 7 ปี จึงพิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 174 ประกอบด้วยมาตรา 181(1) ให้จำคุก 6 เดือน แต่ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th