ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 83 จำคุกคนละ 3 ปีจำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "คดีนี้ประจักษ์พยานที่สำคัญคือนายวิชัย ตั้งวงศ์ เจ้าของร้านแผงลอยที่เกิดเหตุ นายวิชัยเบิกความว่านางเหมวรรณผู้เสียหายนำเสื้อผ้ามาขายให้นายวิชัยแล้วก็ออกจากร้านไปเข้าใจว่าจะไปขายที่ร้านอื่นต่อ สักครู่ได้มีชายสองคนมาซื้อไฟฉายที่ร้านนายวิชัยพบกระเป๋าใส่สตางค์ขนาดเท่าฝ่ามือวางอยู่บนกางเกงยีนส์ในร้านจึงถามว่าเป็นของใคร ชายสองคนนั้นอ้างว่าเป็นของตน นายวิชัยเข้าใจว่าเป็นของชายสองคนนั้นจึงมอบให้ไป ชายทั้งสองนั้นออกจากร้านนายวิชัยไปได้ประมาณ 2 นาที ผู้เสียหายก็กลับมาถามหากระเป๋าสตางค์ นายวิชัยเล่าให้ฟังว่าชายสองคนได้เอาไปแล้ว แต่นายวิชัยจำหน้าชายสองคนที่เอาไปไม่ได้ตามบันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุหมาย จ.2 ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำไว้ในวันเกิดเหตุนั้นเองก็ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนได้สอบถามนายวิชัยตั้งวงศ์ เจ้าของร้านและคนอื่นที่ร้านใกล้เคียงกันต่างยืนยันว่าไม่เห็นคนร้ายไม่ทราบว่าผู้ใดลักไป และก็ไม่เห็นผู้เสียหายวางกระเป๋าเงินไว้ด้วย ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายของ มีผู้คนหลายจำนวนพลุกพล่านยากแก่การลงความเห็นแต่ผู้เสียหายยืนยันว่าคนร้ายที่ลักเงินของตนคือผู้ต้องหาที่ตำรวจจับกุมตัวมาได้พนักงานสอบสวนจึงเชื่อตามคำผู้เสียหาย ตามพยานหลักฐานของโจทก์ดังกล่าวแล้วแสดงว่า พยานโจทก์เองไม่มีผู้ใดจำคนร้ายได้ คงมีแต่คำยืนยันของผู้เสียหายซึ่งผู้เสียหายเองก็ไม่เห็นคนร้าย พยานหลักฐานในคดีจึงไม่พอฟังลงโทษจำเลยได้ ที่ศาลอุทธรณ์สันนิษฐานเอาจากการที่ธนบัตร 500 บาทที่ค้นในกระเป๋ากางเกงของจำเลยที่ 1 มีรอยยับยู่ยี่ จึงเชื่อว่าจำเลยทั้งสองเป็นคนร้ายเอาเงินของผู้เสียหายไปนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยเพราะเงิน 500 บาทที่ค้นได้ในกระเป๋ากางเกงของจำเลยที่ 1 นั้นเป็นธนบัตรธรรมดาทั่วไปที่ใคร ๆก็มีได้ ไม่มีหลักฐานอะไรที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นธนบัตรของผู้เสียหายที่ถูกลักไป และนอกจากธนบัตร 500 บาทนั้นแล้วจำเลยที่ 1 ก็ยังมีเงินอีกถึง 2,000บาทเศษในกระเป๋าใส่เงินของจำเลยที่ 1 พยานหลักฐานในคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นคนร้ายลักทรัพย์ของผู้เสียหายไป แม้จำเลยที่ 2 จะไม่ได้ฎีกาศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่ 2 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213, 225 เพราะเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี"

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ ปล่อยจำเลยทั้งสอง คืนธนบัตรของกลาง500 บาท ให้จำเลยที่ 1 ไป

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th