สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103/2564

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2103/2564

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 4, 1273/4 พระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ.2509

ตาม พ.ร.บ.สมาคมการค้า พ.ศ.2509 มิได้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับวิธีดำเนินการในกรณีสมาคมการค้าที่ร้างเนื่องจากมีการเลิกหรือถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนไว้ เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลขอให้มีคำสั่งจดชื่อสมาคมการค้าที่ถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนให้กลับคืนเข้าสู่ทะเบียนเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลย่อมนำมาตรา 1273/4 ซึ่งอยู่ในหมวด 6 ว่าด้วยการถอนทะเบียนห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด และบริษัทจำกัดร้างแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชย์ อันเป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งมาวินิจฉัยคดีให้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 ได้

เนื้อหาฉบับเต็ม

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอ ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายทะเบียนสมาคมการค้าประจำกรุงเทพมหานครออกใบอนุญาตสมาคมการค้า และกลับจดชื่อสมาคมผู้ผลิตภาชนะแผ่นเหล็กคืนเข้าสู่ทะเบียน

ศาลชั้นต้นประกาศนัดไต่สวน ไม่มีผู้ใดคัดค้าน

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

ผู้ร้องฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงตามทางไต่สวนพยานผู้ร้องได้ความว่า สมาคมผู้ผลิตภาชนะแผ่นเหล็กเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย มีผู้ร้องเป็นนายกสมาคมและเป็นประธานสมาคมผู้ผลิตภาชนะแผ่นเหล็ก เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2549 นายทะเบียนสมาคมการค้าประจำกรุงเทพมหานครได้เพิกถอนใบอนุญาตพร้อมทั้งขีดชื่อสมาคมผู้ผลิตภาชนะแผ่นเหล็กออกจากทะเบียนกรณีสมาคมหยุดดำเนินกิจการติดต่อกันตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป ทำให้สมาคมผู้ผลิตภาชนะแผ่นเหล็กสิ้นสภาพนิติบุคคล ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า กรณีไม่มีบทบัญญัติกฎหมายใดที่เปิดช่องให้มีการจดชื่อสมาคมการค้ากลับคืนเข้าสู่ทะเบียนได้เหมือนกับกรณีห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทซึ่งกระทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1273/4 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกคำร้อง มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า การขอให้นายทะเบียนสมาคมการค้าประจำกรุงเทพมหานครออกใบอนุญาตสมาคมการค้าและกลับจดชื่อสมาคมผู้ผลิตภาชนะแผ่นเหล็กคืนเข้าสู่ทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามเดิมอาศัยเทียบบทบัญญัติมาตรา 1273/4 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4 ได้หรือไม่ เห็นว่า มาตรา 1273/4 ซึ่งอยู่ในหมวด 6 ว่าด้วยการถอนทะเบียนห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัดและบริษัทจำกัดร้างแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บัญญัติว่า ถ้าห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วน บริษัท ผู้ถือหุ้น หรือเจ้าหนี้ใด ๆ ของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้น รู้สึกว่าต้องเสียหายโดยไม่เป็นธรรมเพราะการที่ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทถูกขีดชื่อออกจากทะเบียน เมื่อห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วน บริษัท ผู้ถือหุ้นหรือเจ้าหนี้ยื่นคำร้องต่อศาล และศาลพิจารณาได้ความเป็นที่พอใจว่าในขณะที่ขีดชื่อห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทออกจากทะเบียน ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทยังทำการค้าขายหรือยังประกอบการงานอยู่ หรือเห็นเป็นการยุติธรรมในการที่จะให้ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทได้กลับคืนสู่ทะเบียนก็ดี ศาลจะสั่งให้จดชื่อห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทกลับคืนเข้าสู่ทะเบียนก็ได้ และให้ถือว่าห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นยังคงอยู่ตลอดมาเสมือนมิได้มีการขีดชื่อออกเลย โดยศาลจะสั่งและวางข้อกำหนดไว้เป็นประการใด ๆ ตามที่เห็นเป็นการยุติธรรมด้วยก็ได้ เพื่อให้ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทและบรรดาบุคคลอื่น ๆ กลับคืนสู่ฐานะอันใกล้ที่สุดกับฐานะเดิมเสมือนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นมิได้ถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนเลย ดังนี้ ตามพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ.2509 มิได้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับวิธีดำเนินการในกรณีสมาคมการค้าที่ร้างเนื่องจากมีการเลิกหรือถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนไว้ เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลขอให้มีคำสั่งจดชื่อสมาคมการค้าที่ถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนให้กลับคืนเข้าสู่ทะเบียนเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลย่อมนำมาตรา 1273/4 ดังกล่าวซึ่งเป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งมาวินิจฉัยคดีให้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 ได้ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า กรณีไม่มีบทบัญญัติกฎหมายใดที่เปิดช่องให้มีการจดชื่อสมาคมการค้ากลับคืนเข้าสู่ทะเบียนได้นั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของผู้ร้องข้อนี้ฟังขึ้น แต่ตามมาตรา 1273/4 วรรคสอง บัญญัติว่า การร้องขอให้ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทกลับคืนสู่ทะเบียน ห้ามมิให้ร้องขอเมื่อพ้นกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทออกจากทะเบียน เช่นนี้ การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 จึงเป็นการร้องขอเมื่อพ้นกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อสมาคมผู้ผลิตภาชนะแผ่นเหล็กออกจากทะเบียนแล้ว เป็นการต้องห้ามไม่ให้ร้องขอตามบทบัญญัติดังกล่าว ผู้ร้องจึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้อง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา พณ.84/2563

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ ผู้ร้อง - นาย ว.

ชื่อองค์คณะ จักรกฤษณ์ อนันต์สุชาติกุล พิศิฏฐ์ สุดลาภา สุพิศ ปราณีตพลกรัง

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลแพ่งธนบุรี - นางวันเพ็ญ กีรติกฤติยานนท์ ศาลอุทธรณ์ - นางบุษยา รอดยินดี

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE