ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนอาคารออกจากที่ดินพร้อมขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไป ห้ามเกี่ยวข้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ที่จำเลยฎีกาว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะในหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครท้ายฟ้องหมายเลข 1 ไม่มีชื่อกรรมการบริษัทโจทก์ จึงไม่อาจทราบได้ว่า นายเจริญ บุญดีเจริญ และนายวัฒนศักดิ์ สนิทวงศ์ เป็นกรรมการบริษัทโจทก์ผู้มีอำนาจทำการแทนบริษัทโจทก์หรือไม่นั้น ตามคำให้การของจำเลยข้อ 1 ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม เพราะชื่อจำเลย (ที่ถูกน่าจะเป็นโจทก์) ในฟ้องไม่ถูกต้องและไม่ตรงกับความเป็นจริง มีถึง 2 คน จะให้จำเลยเข้าใจได้ถูกต้องว่าอะไรแน่ ศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาของจำเลยดังกล่าวเป็นเรื่องจำเลยอ้างเหตุแห่งความเคลือบคลุมของฟ้องของโจทก์ขึ้น มาใหม่นอกเหนือจากที่ให้การต่อสู้ไว้ เป็นฎีกานอกประเด็น แม้ในคำให้การของจำเลยข้อ 1 จะมีข้อความอีกว่า โจทก์บรรยายในคำฟ้องไม่ชัดแจ้งไม่แน่นอนขาดรายละเอียดอันเป็นสารสำคัญแห่งคำฟ้องด้วยก็ตาม แต่จำเลยก็มิได้ยกข้อเท็จจริงขึ้นกล่าวอ้างว่าคำฟ้องโจทก์ไม่ชัดแจ้งไม่แน่นอนและขาดรายละเอียดอันเป็นสารสำคัญแห่งคำฟ้องในเรื่องอะไรสำคัญอย่างไร จึงถือว่าคำให้การของจำเลยดังกล่าวไม่มีประเด็นที่ศาลจะวินิจฉัยให้ ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย

ที่จำเลยฎีกาว่า สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ไม่มีสิทธิเข้าเป็นโจทก์ร่วม และโจทก์กับโจทก์ร่วมไม่มีอำนาจฟ้องนั้น ได้ความว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลเรียกสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เข้ามาในคดีอ้างเหตุว่า โจทก์ได้ทำสัญญาเช่าที่ดินจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แต่เข้าครอบครองที่ดินที่เช่าไม่ได้ เพราะจำเลยไม่ยอมออกไป ถ้าโจทก์แพ้คดีโจทก์ไม่สามารถเรียกค่าทดแทนที่ไม่ได้เข้าครอบครองที่ดินตามสัญญาเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และอาจถูกสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เรียกค่าเสียหายที่โจทก์ไม่ปฏิบัติตามสัญญาเช่าที่ดิน ศาลฎีกาเห็นว่า ข้ออ้างของโจทก์ดังกล่าวเป็นเหตุจำเป็นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(3)(ก)ศาลชั้นต้นชอบที่จะอนุญาตให้หมายเรียกสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มาเป็นโจทก์ร่วมได้ และเมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยได้ขอให้ศาลเรียกเจ้าของที่ดินผู้ให้เช่ามาเป็นโจทก์ร่วมแล้ว โจทก์และโจทก์ร่วมย่อมมีอำนาจฟ้องให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินที่โจทก์เช่าจาก โจทก์ร่วมได้ คำพิพากษาฎีกาที่จำเลยอ้างประกอบฎีกาของจำเลยไม่ตรงกับรูปคดีนี้"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th