ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก มาตรา 284 วรรคแรก และมาตรา 317 วรรคท้ายเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เรียงกระทง ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานกระทำชำเราเด็กหญิง อายุยังไม่เกินสิบห้าปี จำคุก 10 ปี ฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจารจำคุก 5 ปี ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร จำคุก 10 ปี รวมจำคุก 25 ปี

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ฐานพาหญิง ไปเพื่อการอนาจารจำคุก 2 ปี ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ไปเพื่ออนาจารจำคุก 6 ปี เมื่อรวมกับโทษอีกกระทงหนึ่ง ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว คงจำคุก 18 ปี นอกจากที่แก้ให้ เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ความผิดฐานพาหญิงไป เพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 284 วรรคแรก ศาลอุทธรณ์ภาค 2 แก้ไขเล็กน้อยเฉพาะโทษที่ลงแก่จำเลย แต่โทษ จำคุกยังคงไม่เกิน 5 ปี จำเลยจึงฎีกา ปัญหาข้อเท็จจริงในความผิด กระทงนี้ไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ไม่รับฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงในกระทงดังกล่าว คงรับฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงสำหรับความผิด 2 กระทงที่เหลือ จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาฉบับลงวันที่ 12 ตุลาคม 2541ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยมิได้ยกเหตุผลว่าคำสั่ง ศาลชั้นต้นไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไรจึงถือไม่ได้ว่าเป็นคำร้อง อุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 224

จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้น ดังกล่าวว่า โจทก์มีเพียงพยานผู้เสียหายปากเดียวที่กล่าวยืนยัน เอาความผิดกับจำเลยและยังมีข้อสงสัยอีกหลายประการ อันควร ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลยและจำเลยมีสิทธิให้ ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษารับรองฎีกาว่า เป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดได้ แต่ผู้พิพากษาดังกล่าว ย้ายไปรับราชการที่ศาลอื่นทั้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 224 ให้โอกาสจำเลยในการอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาได้ ขอศาลฎีกาโปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป

ศาลฎีกามีคำสั่งว่า "พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า กรณีที่ ศาลชั้นต้นตรวจฎีกาแล้วมีคำสั่งพร้อมทั้งเหตุผลว่าไม่รับฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 223 นั้น หากผู้ฎีกา ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว ผู้ฎีกาต้องยื่นฎีกาโดยทำเป็น คำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกานั้นต่อศาลฎีกาภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 224 เป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นจะต้องส่งคำร้องเช่นว่านั้น ไปยังศาลฎีกา เพื่อสั่งคำร้องของ ผู้ฎีกาต่อไป ศาลชั้นต้นไม่มี อำนาจจะสั่งคำร้องของ จำเลยดังกล่าวได้ การที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยเสียเองจึงไม่ชอบ ด้วยกฎหมายดังกล่าว ให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับคำร้อง ฉบับนี้เสีย ได้พิเคราะห์คำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ฉบับลงวันที่ 12 ตุลาคม 2541 แล้ว จำเลยกล่าวในคำร้องแต่เพียงว่า ข้อที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยในปัญหาข้อเท็จจริง มีประเด็นสำคัญอันสมควรสู่การพิจารณาของศาลฎีกา เพื่อให้จำเลย ได้รับความเป็นธรรมด้วยเหตุที่พยานหลักฐานของโจทก์มีข้อพิรุธ สงสัยอยู่มาก ดังนี้ คำร้องฎีกาคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยมิได้ แสดง ข้อโต้แย้งหรือคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นให้ชัดเจนว่าคลาดเคลื่อนไม่ชอบด้วยกฎหมายประการใด หรือฎีกาของจำเลย ไม่ต้องห้ามตามกฎหมายอันควรที่ศาลฎีกาจะรับไว้พิจารณาอย่างไร ย่อมไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 ดังนั้น จึงไม่รับวินิจฉัย คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย ให้ยกคำร้อง"

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th