ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีนี้โจทย์ฟ้องกล่าวโทษจำเลยว่า นายคีหวุนจำเลยได้รับอนุญาตจำหน่ายฝิ่นในเขตต์แขวงอำเภอท่ามะกาจังหวัดราชบุรี ในวันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๑ นายคีหวุนจำเลยบังอาจส่งผ้าซับฝิ่นหนัก ๑๔ ตำลึงให้นายกิมจำเลยนำไปเที่ยวจำหน่ายหาผลประโยชน์ในท้องที่อำเภอจังหวัดกาญจนบุรีโดยมิได้รับอนุญาต เจ้าพนักงานจับได้ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติภาษีฝิ่นจุลศักราช ๑๒๓๓ พระราชบัญญัติภาษีฝิ่นเพิ่มเติมปี ร.ศ.๑๐๙ แลพระราชบัญญัติกำหนดโทษทำฝิ่นเถื่อนศก ๑๒๕ มาตรา ๕ ทั้งขอให้ริบของกลางด้วย ฯ

นายคีหวุนจำเลยให้การว่าได้รับอนุญาตจำหน่ายฝิ่นย่อยที่ตำบลบ้านวังศาลาจังหวัดราชบุรี จำเลยได้ส่งผ้าซับฝิ่นให้แก่นายกิมจำเลย เพื่อให้นำไปให้นายจอกถูกจ้างตัดไม่ของจำเลยกิน แต่มิได้ส่งไปขาย ฯ

นายกิมจำเลยให้การรับว่า นายคีหวุนได้ฝากผ้าซับฝิ่นไปให้แก่นายจอกลูกจ้างของนายคีหวุน แต่ยังมิทันได้ส่งให้แก่นายจอกก็ถูกจับ ฯ

ศาลจังหวัดกาญจนบุรีพิจารณาแล้ว ได้ความว่าผ้าชนิดนี้เกิดขึ้นจากผู้ที่สูบฝิ่นเอาผ้าเขดเนื้อฝิ่นและมูลฝิ่นที่ติดเปื้อนอยู่ตามวัตถุที่เปนเครื่องสูบฝิ่น ผ้าซับฝิ่นรายนี้เปนของนายคีหวุนฝากนายกิมให้นำเอาไปให้แก่นายจอกลูกจ้างของนายคีหวุน แต่ผ้าซับฝิ่นชนิดนี้มิได้เข้าอยู่ในบัญญัติแห่งกฎหมายฝิ่นที่โจทย์ร้องขอมาจึงพิพากษายกฟ้องโจทย์ ปล่อยตัวจำเลยไป ฯ

โจทอุทธรณ ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษเห็นว่า ผ้าซับฝิ่นรายนี้โจทย์นำสืบแยกไม่ได้ว่าฝิ่นที่ติดอยู่ในผ้านั้นจะเปนเนื้อยาฝิ่นเท่าใด มูลยาฝิ่นเท่าใดแล้ว ควรฟังว่าฝิ่นที่ติดอยู่ในผ้านั้นเปนมูลยาฝิ่นทั้งหมด ทั้งได้ความว่าเวลานี้ซื้อขายกันตำลึงละ ๖ บาท เมื่อนายคีหวุนจำเลยซึ่งเปนเจ้าของผ้าได้สมคบกับนายกิมจำเลย ให้นายกิมจำเลยนำข้ามแขวงเอาไปเที่ยวจำหน่ายดังนี้ จำเลยทั้ง ๒ ต้องเปนตัวการด้วยกัน มีผิดตามพระราชบัญญัติภาษีฝิ่นเพิ่มเติมศก ๑๐๙ มาตรา ๓๓-๓๔ แลพระราชบัญญัติกำหนดโทษฝิ่นเถื่อนศก ๑๒๕ มาตรา ๓ ข้อ ๒ พิพากษากลับคำตัดสินศาลเดิม ให้ปรับจำเลย ๓ เท่าราคามูลยาฝิ่นเปนเงินคนละ ๒๕๒ บาทเปนพินัยหลวง แล้วให้ริบผ้าซับฝิ่นของกลางรายนี้เสียด้วย ฯ

นายคีหวุนจำเลยทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกา ฯ

กรรมการศาลฎีกาได้ประชุมตรวจสำนวนเรื่องนี้แล้วได้ความจากคำนายไคเซงพยานโจทย์ว่า ผ้าซับฝิ่นชนิดนี้พยานเคยขายในเวลานั้นหนักตำลึง ๑ เปนเงิน ๖ บาท แต่ผ้าซับฝิ่นรายนี้มีน้ำหนักรวมทั้งเนื้อผ้าด้วยหนัก ๑๔ ตำลึง อนึ่งผ้าซับฝิ่นรายนี้จะมีเนื้อยาฝิ่นและมูลยาฝิ่นติดอยู่ในผ้านั้นอย่างละมากน้อยเท่าใด ข้อนี้โจทย์ก็หาได้นำสืบให้ได้ความชัดไม่ เมื่อไม่รู้แน่ว่ามีเนื้อยาฝิ่นฤามูลยาฝิ่นอย่างใดติดอยู่ในผ้านั้นอย่างละมากน้อยเท่าใดแล้ว ก็ยากที่จะตั้งเกณฑ์ปรับจำเลยได้ เพราะอาจมีเนื้อยาฝิ่นติดอยู่ในผ้านั้นมีน้ำหนักไม่เกินกว่า ๑ ตำลึงจีน ซึ่งจำเลยอาจจะไม่ต้องถูกปรับตามพระราชบัญญัติภาษีฝิ่นเพิ่มเติมปี พ.ศ.๒๔๖๐ ก็เปนได้ เมื่อคดีโจทย์ยังมัวหมองไม่แน่ชัดดังนี้จะลงโทษจำเลยยังไม่ได้ ที่ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษลงโทษปรับไหมจำเลยรวม ๆ มานั้นยังไม่ถูก จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษเสีย ให้ปล่อยตัวจำเลยทั้ง ๒ คนหลุดพ้นโทษไปตามคำพิพากษานี้ ฯ

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th