ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาขายอะไหล่รถบดถนนให้โจทก์แล้วผิดสัญญาไม่ส่งมอบขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหายและค่าปรับ
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายและค่าปรับตามฟ้องแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วเห็นว่า จำเลยไม่จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาจึงมีคำสั่งให้พิจารณาใหม่ และงดการบังคับคดีไว้
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ปัญหาตามฎีกาของโจทก์ที่ว่า คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยไม่ได้แสดงว่าจำเลยมีเหตุผลอย่างไรที่ศาลจะพิพากษาให้จำเลยชนะคดีได้ในเมื่อมีการพิจารณาใหม่ ดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง นั้น โจทก์มิได้ยกขึ้นว่ามาแล้วในศาลล่าง มีปัญหาว่าโจทก์จะยกขึ้นฎีกาได้หรือไม่
ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่า ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้โจทก์จะมิได้ยกขึ้นว่ามาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ โจทก์ก็ยังมีสิทธิยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคสอง
แล้วศาลฎีกาวินิจฉัยต่อไปว่า คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยมิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลเพื่อแสดงว่าตนอาจชนะคดีได้อย่างไร คงกล่าวแต่เพียงว่า ถ้าจำเลยมีโอกาสต่อสู้คดีแล้ว จำเลยก็มีโอกาสชนะคดีได้เท่านั้น โดยไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานอ้างอิงที่จะแสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่า หากมีการพิจารณาใหม่แล้ว ศาลอาจพิพากษาให้จำเลยชนะคดีได้ คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 208 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ที่ศาลจะสั่งให้มีการพิจารณาใหม่ได้ คดีไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นต่อไป
พิพากษากลับ เป็นให้ยกคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลย
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








