ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์โดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้คนร้ายสามารถลักเงินสดของโจทก์ไป ขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหายเท่ากับจำนวนเงินที่ถูกลักพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยให้การว่าไม่ได้ประมาทเลินเล่อ เหตุที่เงินหายเพราะมีคนร้ายเข้ามาโจรกรรมโดยงัดโต๊ะทำงานของจำเลย เอาลูกกุญแจตู้นิรภัยไปไขตู้นิรภัย แล้วลักเงินไปเอง จำเลยจึงไม่ได้ทำละเมิดโจทก์

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 43,878.22 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 28 พฤษภาคม2525 ไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า การที่จำเลยฝ่าฝืนระเบียบก็ดีหรือเก็บลูกกุญแจไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานก็ดียังไม่เป็นการประมาทเลินเล่อและไม่เป็นการละเมิดนั้นเห็นว่า เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย การพิจารณาวินิจฉัยในปัญหานี้จำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์รับฟังเป็นยุติแล้วว่า จำเลยเป็นเหรัญญิกมีหน้าที่เก็บรักษาเงินของโจทก์โจทก์มีระเบียบว่าด้วยการรับจ่ายและเก็บรักษาเงินของสหกรณ์พ.ศ. 2520 ข้อ 8 ว่า 'เหรัญญิกหรือเจ้าหน้าที่การเงินของสหกรณ์จะเก็บรักษาเงินสดของสหกรณ์ไว้ได้ไม่เกินหนึ่งพันบาท เงินสดส่วนที่เกินให้นำส่งเข้าฝากในธนาคารที่สหกรณ์เปิดบัญชีเงินฝากไว้ ในกรณีจำเป็นไม่สามารถนำเข้าฝากได้ทันในเวลานั้น ๆ ให้ทำบันทึกเสนอประธานกรรมการหรือรองประธานกรรมการทราบและให้นำส่งเข้าฝากในวันแรกที่เปิดทำการ เงินสดที่เก็บรักษาไว้ดังกล่าวข้างต้นให้เก็บรักษาไว้ในตู้นิรภัยของสหกรณ์(ในระหว่างที่สหกรณ์ยังไม่มีตู้นิรภัยให้ประธานกรรมการนำฝากไว้ในตู้นิรภัยของทางราชการ) เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2525จำเลยได้เก็บเงินสดจำนวน 43,878.22 บาท ของโจทก์ไว้โดยไม่นำเข้าฝากธนาคารที่โจทก์เปิดบัญชี จำเลยได้นำเงินเข้าเก็บไว้ในตู้นิรภัยของทางราชการโดยไม่ได้ทำบันทึกเสนอเพื่อขออนุมัติต่อประธานกรรมการหรือรองประธานกรรมการของโจทก์ ต่อมามีคนร้ายงัดโต๊ะที่จำเลยเก็บลูกกุญแจตู้นิรภัยไว้แล้วนำลูกกุญแจไปไขตู้นิรภัยเอาเงินจำนวนดังกล่าวของโจทก์ไปพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทราบระเบียบว่าด้วยการรับจ่ายและเก็บรักษาเงินของโจทก์ดีอยู่แล้วว่าห้ามมิให้เหรัญญิกหรือเจ้าหน้าที่การเงินของโจทก์เก็บรักษาเงินสดไว้เกินจำนวนหนึ่งพันบาท เงินส่วนที่เกินให้ฝากธนาคารที่โจทก์เปิดบัญชีเงินฝากไว้ ถ้ามีเหตุจำเป็นไม่สามารถนำเข้าฝากได้ทันตามเวลา ให้ทำบันทึกเสนอประธานหรือรองประธานกรรมการโจทก์ทราบ และให้นำส่งเข้าฝากในวันแรกเปิดทำการ แต่จำเลยก็ไม่ยอมปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าว กลับเก็บรักษาเงินสดของโจทก์ไว้เป็นจำนวนมากถึง 43,878.22 บาท โดยละเลยไม่ยอมนำส่วนที่เกินหนึ่งพันบาทไปฝากธนาคาร ทั้งไม่ทำบันทึกเสนอให้ประธานกรรมการหรือรองประธานกรรมการของโจทก์ทราบอีกด้วย ส่วนลูกกุญแจตู้นิรภัยเก็บเงินจำเลยก็ไม่ได้เก็บรักษาตามระเบียบ แต่กลับนำไปเก็บในโต๊ะทำงานซึ่งอยู่ห่างตู้นิรภัยเพียงประมาณ 1 เมตร ง่ายต่อการที่คนร้ายจะค้นหาพบแล้วนำไปไขเปิดตู้นิรภัย พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เมื่อมีคนร้ายลักลอบเข้ามางัดโต๊ะทำงาน และค้นได้ลูกกุญแจนำไปไขตู้นิรภัยแล้วลักเอาเงินสดจำนวนดังกล่าวไป ย่อมเป็นผลโดยตรงจากการประมาทเลินเล่อของจำเลย ถือได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th