คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2196/2564
พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ม. 55, 78 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 195 วรรคสอง, 225
ความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย เป็นความผิดและระวางโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 78 ประกอบมาตรา 55 อันเป็นบทมาตราเดียวกัน เมื่อจำเลยกับพวกร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดดังกล่าวในขณะเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากัน ซึ่งต้องลงโทษฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ปัญหานี้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 4, 7, 38, 55, 72, 74, 78 พระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 มาตรา 4, 15, 42 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 83, 91 ริบอาวุธปืนพกออโตเมติก (GLOCK) ขนาด 9 มม. LUGER เลขหมายประจำปืน TWT375 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกออโตเมติก (GLOCK) ขนาด 9 มม. LUGER จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกออโตเมติก (GLOCK) ขนาด 9 มม. LUGER เลขหมายประจำปืน RRP391 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกออโตเมติก (GLOCK) ขนาด 9 มม. LUGER เลขหมายประจำปืน TSV806 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกออโตเมติก (GLOCK) ขนาด 9 มม. LUGER เลขหมายประจำปืน HED610 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกออโตเมติก (GLOCK) ขนาด 9 มม. LUGER เลขหมายประจำปืน USN 541 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนลูกซอง (ประกอบขึ้นเอง) ขนาด 28 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาวไรเฟิล (ผลิตจากต่างประเทศ) แบบโบลท์แอ๊กชั่น ขนาด .223 REMINGTON จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาวไรเฟิล (ผลิตจากต่างประเทศ) แบบโบลท์แอ๊กชั่น ขนาด .223 REMINGTON จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนเล็กยาวแบบ 45 แบบโบลท์แอ๊กชั่น ขนาด 8 มม. จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาวลูกซองเดี่ยว (ผลิตจากต่างประเทศ) แบบสไลด์แอ๊กชั่น ขนาด 12 จำนวน 1 กระบอก ลำกล้องของปืนพก (ประกอบขึ้นเอง) ใช้ยิงได้กับกระสุนลูกกรด ขนาด .22 LONG RIFLE จำนวน 141 อัน ลำกล้องของปืนไม่ทราบชนิด ขนาด จำนวน 9 อัน ลำกล้องของปืนพกออโตเมติก ขนาด 9 มม. LUGER จำนวน 1 อัน ลำกล้องของปืนพกออโตเมติก ขนาด .45 (11 มม.) จำนวน 1 อัน ชุดลูกเลื่อนของปืนยาวลูกซองเดี่ยว ขนาด 12 จำนวน 1 อัน ชุดลูกเลื่อนของปืนยาวไรเฟิล ขนาด .223 REMINGTON จำนวน 1 อัน ชุดลูกเลื่อนของปืนยาวลูกกรด ขนาดประมาณ .22 จำนวน 1 อัน ชุดเครื่องลั่นไกของปืนยาวลูกซองเดี่ยว ไม่สามารถระบุขนาดได้ จำนวน 1 อัน ซองกระสุนปืนของปืนพกออโตเมติก (GLOCK) ขนาด 9 มม. LUGER ชนิดบรรจุ 15 นัด จำนวน 12 อัน ซองกระสุนปืนของปืนยาวลูกกรด ขนาด .22 LONG RIFLE จำนวน 1 อัน อาวุธปืนเล็กกล (M16) ขนาด .223 (5.56 มม.) จำนวน 3 กระบอก ลำกล้องของปืนเล็กกล (M16) ขนาด .223 (5.56 มม.) จำนวน 35 อัน ชุดลูกเลื่อนของปืนเล็กกล (M16) ขนาด .223 (5.56 มม.) จำนวน 7 อัน ชุดลูกเลื่อนของปืนไม่ทราบชนิด ขนาด จำนวน 1 อัน โครงลูกเลื่อนของปืนเล็กกล (M16) ขนาด .223 (5.56 มม.) จำนวน 29 อัน ชุดเครื่องลั่นไกของปืนเล็กยาว 88 ขนาด 7.62 มม. จำนวน 1 อัน โครงปืนสำหรับใส่ชุดเครื่องลั่นไกของปืนเล็กกล (M4) ขนาด .223 (5.56 มม.) จำนวน 17 อัน ชุดอุปกรณ์เครื่องลั่นไกของปืนเล็กกล (M16) ขนาด .223 (5.56 มม.) จำนวน 224 อัน คันเลือกการยิงของปืนเล็กกล (M16) ขนาด .223 (5.56 มม.) จำนวน 91 อัน ซองกระสุนปืนของปืนเล็กกล (M16) ขนาด .223 (5.56 มม.) ชนิดบรรจุ 20 นัด จำนวน 21 อัน ซองกระสุนปืนของปืนเล็กกล (M16) ขนาด .223 (5.56 มม.) ชนิดบรรจุ 31 นัด จำนวน 6 อัน ลูกระเบิดขว้างรุก เอ็ม เค 3 เอ2 (MK 3 A2) จำนวน 1 ลูก ลูกระเบิดขว้างควันสีขาว จำนวน 1 ลูก ซองกระสุนปืนของปืนพกออโตเมติก (GLOCK) ขนาด 9 มม. LUGER ชนิดบรรจุ 31 นัด จำนวน 2 อัน วัตถุระเบิดแรงสูง ดินระเบิดคอมโปซิชั่น ซี-4 (COMPOSITION 4) จำนวน 1 แท่ง เชื้อปะทุไฟฟ้า (ELECTRIC BLASTING CAP) ชนิดสายไฟคู่สายไฟสีแดงและสายไฟสีขาว จำนวน 2 ดอก และเครื่องจุดระเบิดชนิดมาตรฐาน M-57 (FIRING DEVICE ELECTRICAL 57) จำนวน 1 ตัว ของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 38 วรรคหนึ่ง, 55, 72 วรรคหนึ่ง วรรคสอง วรรคสาม, 74, 78 วรรคหนึ่ง พระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 42 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรม เป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไม่มีทะเบียนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และฐานร่วมกันมีอาวุธปืนมีทะเบียนของผู้อื่นไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไม่มีทะเบียนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 8 ปี ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำคุก 3 ปี ฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย (ที่ถูก ฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย) จำคุก 3 ปี และฐานร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 1 ปี รวมจำคุก 15 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 10 ปี ริบของกลางทั้งหมด
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีสิ่งแวดล้อมวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่โจทก์และจำเลยมิโต้แย้งกันในชั้นฎีการับฟังเป็นยุติว่า ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง เจ้าพนักงานตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกันตรวจค้นบ้านของจำเลย พบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ของกลาง พนักงานสอบสวนส่งอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ของกลางไปตรวจพิสูจน์ ผลการตรวจปรากฏตามรายงานผลการตรวจพิสูจน์ และตรวจสอบใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนของจำเลย พบว่าจำเลยได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน 3 กระบอก ตามหนังสือของที่ว่าการอำเภอ เรื่อง ตรวจสอบใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและข้อมูลทะเบียนอาวุธปืน สำหรับความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ความผิดฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิดในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และความผิดฐานร่วมกันมียุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดต่างกรรม ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นที่พิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละไม่เกินห้าปี จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่ง จำเลยฎีกาว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิดในแต่ละข้อหาดังกล่าว เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อจำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้ฎีกา จึงเป็นฎีกาที่ยื่นโดยไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย คงมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยเฉพาะความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนไม่มีเครื่องหมายทะเบียนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนมีเครื่องหมายทะเบียนของผู้อื่นโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
ปัญหาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนไม่มีเครื่องหมายทะเบียนของเจ้าพนักงานและร่วมกันมีอาวุธปืนมีเครื่องหมายทะเบียนของผู้อื่นไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 หรือไม่ เห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยที่ปล่อยให้นาย ป. นำอาวุธปืนจำนวนมากมาเก็บไว้ในบ้านของจำเลย ทั้งยังยอมให้นาย ป. ใช้บัญชีเงินฝากของจำเลยในการโอนเงินจากการซื้อขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนตลอดมา ข้อเท็จจริงดังได้วินิจฉัยมารับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยกระทำความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนไม่มีเครื่องหมายทะเบียนของเจ้าพนักงานและร่วมกันมีอาวุธปืนมีเครื่องหมายทะเบียนของผู้อื่นไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 2 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาลงโทษจำเลยนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง ความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เป็นความผิดและระวางโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 78 ประกอบมาตรา 55 อันเป็นบทมาตราเดียวกัน เมื่อจำเลยกับพวกร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งอาวุธปืน เครื่องกระสุนและวัตถุระเบิดดังกล่าวในขณะเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากันซึ่งต้องลงโทษฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาในปัญหานี้ แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำคุก 3 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี เมื่อรวมกับโทษฐานอื่น ๆ ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ซึ่งต้องลดโทษให้เป็นรายกระทงตามที่กฎหมายบัญญัติ คงจำคุกจำเลยมีกำหนด 7 ปี 12 เดือน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา สว.(อ)267/2563
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการจังหวัดฉะเชิงเทรา จำเลย - นาง อ.
ชื่อองค์คณะ อุทัย โสภาโชติ พันธุ์เลิศ บุญเลี้ยง วินัย เรืองศรี
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา - นางสาววชิราพรรณ ณ กาฬสินธุ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 - นายยุทธนา รัตนประดิษฐ์