ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทำสัญญาเช่าตึกพิพาทกับจำเลยมีกำหนด 1 ปีค่าเช่าเดือนละ 4,000 บาท โจทก์วางเงินประกันค่าเสียหายไว้แก่จำเลย 12,000 บาท มีข้อตกลงว่าจำเลยจะต้องคืนเงินจำนวนนี้แก่โจทก์เมื่อเลิกเช่า ครั้นสัญญาเช่าสิ้นสุด โจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าและคืนตึก แก่จำเลย แต่จำเลยไม่คืนเงินประกันให้โจทก์ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย

จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์วันที่19 ตุลาคม 2531 วันที่ 14 ตุลาคม 2531 จำเลยยื่นคำร้องขออนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นสั่งว่า ปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2531 จำเลยทราบเรื่องว่าถูกฟ้องโดย ให้ทนายมาดูสำนวนเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2531 และถ่ายคำฟ้องวันที่ 3 ตุลาคม 2531 การที่จำเลยเพิ่งมาขอยื่นคำให้การวันที่14 ตุลาคม 2531 แสดงว่าจำเลยจงใจขาดนัดหรือไม่มีเหตุอันสมควรจึงไม่อนุญาตให้ยื่นคำให้การ ยกคำร้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยจำเลยอุทธรณ์คำสั่งและคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การที่จะวินิจฉัยว่า จำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การหรือไม่นั้น เป็นการพิจารณาถึงเหตุที่จำเลยไม่ยื่นคำให้การภายในกำหนด โดย ดูว่าจำเลยได้รับหมายเรียกให้ยื่นคำให้การเมื่อใด จำเลยทราบหรือไม่ว่าถูกฟ้องและดูพฤติการณ์ต่าง ๆ ของจำเลย อันเป็นพฤติการณ์ก่อนที่ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ หลังจากที่ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้ว กฎหมายมิได้กำหนดระยะเวลาไว้ว่าจำเลยจะต้องยื่นคำร้องขออนุญาตให้จำเลยให้การเมื่อใด คดีนี้จำเลยมายื่นคำร้องขออนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การหลังจากทราบว่าถูกฟ้องประมาณ 14 วัน และระยะเวลา 14 วันนี้เป็นพฤติการณ์หลังจากศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้ว จึงยังถือไม่ได้ว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการจงใจขาดนัดยื่นคำให้การหรือไม่มีเหตุอันสมควรที่จะไม่ให้จำเลยยื่นคำให้การ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำร้องขออนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การแล้วดำเนินการต่อไป โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "มีปัญหาที่จะวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงนอกสำนวนหรือผิดจากข้อเท็จจริงในสำนวนหรือไม่ ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นฟังได้ว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 21 กันยายน2531 ว่า จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ให้นัดสืบพยานโจทก์ วันที่19 ตุลาคม 2531 เวลา 9 นาฬิกา ครั้นวันที่ 14 ตุลาคม 2531จำเลยยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การ โดย อ้างว่าจำเลยเดินทางไปประกอบธุรกิจที่จังหวัดกระบี่ไม่ทราบว่าถูกโจทก์ฟ้อง จำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า "ปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2531 จำเลยทราบว่าถูกฟ้องโดย ให้ทนายมาดูสำนวนเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2531 และถ่ายคำฟ้องวันที่ 3 ตุลาคม 2531 การที่จำเลยเพิ่งมาขอยื่นคำให้การ (ที่ถูกยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การ) วันที่ 14 ตุลาคม 2531 แสดงว่าจำเลยจงใจขาดนัดหรือไม่มีเหตุอันสมควรจึงไม่อนุญาตให้ยื่นคำให้การให้ยกคำร้อง" พิเคราะห์แล้ว ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 199 วรรคแรกบัญญัติว่า "ถ้าจำเลยมาศาลเมื่อเริ่มต้นสืบพยานหรือแจ้งให้ศาลทราบก่อนเริ่มสืบพยานถึงเหตุที่ตนมิได้ยื่นคำให้การและศาลเห็นว่าการขาดนัดของจำเลยมิได้เป็นไปโดย จงใจ หรือมีเหตุอันสมควรประการอื่น ให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การภายในกำหนดเวลาตามที่ศาลจะเห็นสมควร" เห็นว่า การที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การหรือไม่นั้น เป็นการพิจารณาถึงเหตุที่จำเลยไม่ได้ยื่นคำให้การภายในกำหนด โดย จะต้องดูว่าจำเลยทราบหรือไม่ว่าตนถูกฟ้อง จำเลยได้รับหมายเรียกให้ยื่นคำให้การเมื่อใดและพฤติการณ์ต่าง ๆ ของจำเลยประกอบกัน อันเป็นพฤติการณ์ก่อนที่ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยทราบว่าถูกฟ้องโดย ให้ทนายมาดูสำนวนวันที่ 30กันยายน 2531 และถ่ายคำฟ้องวันที่ 3 ตุลาคม 2531 การที่จำเลยเพิ่งมายื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การวันที่ 14 ตุลาคม 2531แสดงว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การหรือไม่มีเหตุอันสมควรนั้นเป็นพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้ว จึงนำพฤติการณ์ดังกล่าวมาวินิจฉัยว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การไม่ได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษานั้นเป็นการวินิจฉัยในปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ใช่เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงนอกสำนวนหรือผิดจากข้อเท็จจริงในสำนวน ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th