ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เดิมที่นาตาม น.ส. 3 เลขที่ 260 ตำบลกู่จาน อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดอุบลราชธานี เป็นของนายแซะและนางคำ ซึ่งได้แบ่งให้นางตีบมารดาโจทก์ และนางจันทร์ กุ้งคำ พี่โจทก์ ต่อมานางตีบตายที่ดินแปลงนี้ตกทอดแก่โจทก์และนางจันทร์ นางจันทร์แจ้งการครอบครอง (ส.ค.1) เป็นชื่อนางจันทร์และนำไปขายให้นางมีมารดาจำเลยที่ 2 และนายไหมสามีนางมีต่อมาวันที่ 8 เมษายน 2513 โจทก์ขอซื้อคืนแล้วมอบให้นางจันทร์ทำกิน นางจันทร์ขอหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วทำสัญญายกที่ดินให้โจทก์เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2514 วันที่ 7 พฤษภาคม 2519 จำเลยทั้งสองฟ้องโจทก์เกี่ยวกับที่ดินแปลงนี้แต่ได้ถอนฟ้องไป ต่อมาจำเลยทั้งสองได้ฟ้องโจทก์และนางจันทร์เรียกที่ดินแปลงนี้คืน โจทก์และนางจันทร์ได้ให้นายสุวิชช์ จิตยโสธร เป็นทนายความโจทก์ลงชื่อในใบแต่งทนายความซึ่งยังไม่กรอกข้อความ ถือว่าเป็นการมอบหมายให้ทนายความว่าต่างแก้ต่างเท่านั้น โจทก์ไม่เคยยินยอมให้ทนายความทำการประนีประนอมยอมความ ระหว่างพิจารณาคดีโจทก์ไปประกอบอาชีพที่กรุงเทพฯ แต่ได้บอกกับทนายความว่า มิให้มีการสาบานหรือทำความยินยอมจนกว่าศาลจะพิพากษาคดีในวันนัดของศาล โจทก์ไม่ได้มาศาล นายสุวิชช์ทนายความและพนักงานศาลได้นำจำเลยทั้งสองและนางจันทร์ไปสาบานที่วัดสิงห์ท่าแล้วทำสัญญาประนีประนอมที่ศาล โดยให้ที่ดินแปลงนี้เป็นของจำเลยทั้งสอง การที่นางจันทร์และนายสุวิชช์ทนายความทำสัญญาประนีประนอมยอมความไม่มีผลที่จะบังคับคดีแก่โจทก์ได้เพราะนางจันทร์มิใช่เจ้าของที่ดินแปลงนี้ และนายสุวิชช์ทนายความทำไปโดยพลการ ขอให้ศาลพิพากษาว่าสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างนางจันทร์และจำเลยทั้งสองไม่มีผลตามกฎหมาย และที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคำฟ้องว่า จำเลยทั้งสองได้ที่ดินพิพาทไปตามคำพิพากษาตามยอม จำเลยทั้งสองไม่ได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์แต่ประการใด โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง มีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์มิได้แสดงให้ปรากฏในคำฟ้องว่าโจทก์ได้ถูกจำเลยทั้งสองโต้แย้งสิทธิหรือการกระทำของจำเลยทั้งสองมีผลกระทบกระเทือนต่อสิทธิของโจทก์อย่างใด และการกระทำของทนายโจทก์ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมมือกระทำด้วย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th