ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3

จำเลยให้การปฏิเสธ

ระหว่างพิจารณา นายสมัคร พรหมยารัตน์ ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ลงโทษจำคุก 6 เดือน คำให้การจำเลยชั้นพิจารณาของศาลเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 4 เดือน

โจทก์ร่วมและจำเลยอุทธรณ์

ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยขอชำระหนี้ให้โจทก์ร่วม แต่โจทก์ร่วมไม่ยอมรับชำระหนี้ จำเลยจึงได้นำเงิน431,300 บาท ไปวางต่อสำนักงานวางทรัพย์กลาง เมื่อวันที่28 กุมภาพันธ์ 2535 เพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ร่วม

ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า จำเลยได้นำเงินตามเช็คไปวางไว้ที่สำนักงานวางทรัพย์กลางแล้ว พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 7 ได้บัญญัติว่า หนี้ที่ผู้กระทำผิดตามมาตรา 4 ได้ออกเช็คเพื่อใช้เงินนั้นได้สิ้นความผูกพันไปก่อนศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จำหน่ายคดี

โจทก์ร่วมฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ร่วมส่วนที่ว่าการนำเงินไปวางไว้ที่สำนักงานวางทรัพย์กลางไม่ทำให้คดีอาญาระงับไป และหนี้กู้ยืมเงินไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือที่จะบังคับจำเลย การนำเงินไปวางไว้ที่สำนักงานวางทรัพย์กลางจึงกระทำไม่ได้ หนี้ไม่สิ้นผลผูกพัน คดีอาญาไม่ระงับไปนั้น เห็นว่าระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ได้มีพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 ใช้บังคับให้ยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497ซึ่งในพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534บัญญัติว่า "ผู้ใดออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยมีลักษณะหรือมีการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ (1) เจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ฯลฯ"เมื่อจำเลยออกเช็คชำระหนี้กู้ยืมเงินกว่าห้าสิบบาทขึ้นไป โดยที่มิได้มีหลักฐานการกู้ยืมเป็นหนังสือ จึงเป็นหนี้ที่ไม่สามารถบังคับได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดอีกต่อไปแม้จำเลยจะนำเงินไปวางที่สำนักงานวางทรัพย์กลางโดยประสงค์ให้หนี้สินผลผูกพัน ซึ่งมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 บัญญัติให้คดีเลิกกันเมื่อหนี้ที่ผู้กระทำผิดตามมาตรา 4 ได้ออกเช็คเพื่อใช้เงินนั้นได้สิ้นผลผูกพันไปก่อนศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด การจะเลิกกันต้องเป็นกรณีที่หนี้ออกเช็คเพื่อใช้เงินคือหนี้กู้ยืมเงินสิ้นผลผูกพันแต่คดีนี้หนี้กู้ยืมเงินไม่สามารถจะบังคับเรื่องกู้ยืมได้ตามกฎหมาย อันไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 เมื่อวินิจฉัยปัญหาเช่นนี้แล้ว คดีจึงไม่จำต้องวินิจฉัยในปัญหาตามฎีกาของโจทก์ร่วมที่ว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ให้จำหน่ายคดีนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่อีกต่อไป

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th