ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

ศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องของผู้ร้องที่ 1 พิพากษาให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของผู้ร้องที่ 2 ผู้ร้องที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่า ก่อนที่โจทก์จะนำยึดทรัพย์พิพาท เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2513 จำเลยที่ 1 ด้วยการเห็นชอบยินยอมของจำเลยอื่นได้ทำหนังสือสัญญาซื้อขายตามเอกสารหมาย บ.ร.1ขายทรัพย์พิพาทรวมทั้งที่ดินตามที่โจทก์นำยึดไว้ให้แก่ผู้ร้องที่ 2 ในราคา 775,000 บาท ในวันทำสัญญาผู้ร้องที่ 2 ได้ชำระราคาให้แก่จำเลยที่ 1 รับไปแล้วเป็นเงิน 100,000 บาท ส่วนที่เหลือผู้ร้องที่ 2 จะผ่อนชำระให้แก่จำเลยที่ 1 เป็นงวด ๆ ละ 50,000 บาท ภายในวันที่ 15 ของทุกเดือน ยกเว้นงวดสุดท้ายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2514 ผู้ร้องจะชำระให้แก่จำเลยที่ 1 เป็นจำนวนเงิน25,000 บาท ในวันทำสัญญาจำเลยที่ 1 ได้มอบทรัพย์พิพาทให้ผู้ร้องที่ 2 เป็นผู้ครอบครองโดยมีข้อตกลงจะโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ร้องที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 1 ได้รับชำระราคาครบถ้วนตามสัญญาซื้อขายนั้นแล้ว ต่อมาขณะที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึดทรัพย์พิพาทรายนี้ ปรากฏว่าผู้ร้องที่ 2 ยังชำระราคาไม่ครบถ้วนตามสัญญา คดีจึงมีปัญหาให้ศาลฎีกาวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องที่ 2 ว่า สัญญาซื้อขายฉบับนี้เป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด หรือเป็นแต่เพียงสัญญาจะซื้อขายตามคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ และผู้ร้องที่ 2 ซึ่งใช้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาทอยู่ในขณะนี้ได้สิทธิครอบครองแล้วหรือไม่

ปัญหาข้อแรกที่ว่า สัญญาซื้อขายเป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดหรือเป็นแต่เพียงสัญญาจะซื้อจะขายนั้น ศาลฎีกาได้ตรวจพิจารณาเอกสารสัญญาซื้อขายป.ร.1 ที่คู่ความรับกันแล้ว นอกจากในสัญญาข้อ 2 จะระบุให้ผู้ร้องที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ซื้อชำระราคาทรัพย์พิพาทให้แก่จำเลยที่ 1 ผู้ขายเป็นงวด ๆ งวดละเดือนรวม 12 งวดจนกว่าจะชำระครบถ้วนตามสัญญาแล้วในสัญญาข้อ 4 ยังได้มีเงื่อนไขกำหนดให้ผู้ขายโอนทรัพย์พิพาทตามสัญญาซื้อขายนี้ให้แก่ผู้ซื้อในวันที่ผู้ขายได้รับเงินงวดสุดท้ายครบถ้วนแล้ว แต่ข้อเท็จจริงที่ผู้ร้องที่ 2 และโจทก์จำเลยนำสืบรับกันว่า ขณะนี้ผู้ร้องยังชำระราคาทรัพย์ที่ซื้อให้แก่จำเลยที่ 1 ไม่ครบถ้วนตามสัญญา ดังนี้ ศาลฎีกาจึงเห็นว่า ข้อตกลงตามสัญญาเอกสารหมาย ป.ร.1 ดังกล่าวเป็นเพียงสัญญาจะซื้อจะขายเท่านั้น ส่วนการที่จำเลยที่ 1 ส่งมอบการครอบครองทรัพย์พิพาทซึ่งได้แก่ที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญกับโรงโม่หินพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างให้แก่ผู้ร้องที่ 2 ไปแล้วในวันทำสัญญาหมาย ป.ร.1 ก็เป็นแต่เพียงการมอบการครอบครองให้ผู้ร้องที่ 2 ครอบครองไว้แทนจำเลยที่ 1 ผู้เป็นเจ้าของมีสิทธิครอบครองในที่ดินนั้นเท่านั้น หาได้ส่งมอบการครอบครองให้แก่ผู้ร้องที่ 2 โดยสิทธิขาดอันเป็นเหตุให้ผู้ร้องที่ 2 ได้มาซึ่งสิทธิครอบครองในที่ดินนั้นไม่ ทั้งนี้เพราะในสัญญาข้อ 4 ได้ระบุเงื่อนไขไว้ว่า จำเลยที่ 1 จะทำการโอนให้แก่ผู้ร้องที่ 2 ผู้ซื้อในวันที่ผู้ขายได้รับเงินงวดสุดท้ายครบถ้วนแล้ว แต่กรณีในคดีนี้จำเลยที่ 1 ยังไม่ได้รับชำระหนี้ราคาทรัพย์ครบถ้วนตามสัญญาและยังไม่ได้จดทะเบียนนิติกรรมโอนทรัพย์พิพาทให้แก่ผู้ร้องที่ 2 ทรัพย์พิพาททั้งหมดจึงยังเป็นของจำเลยอยู่ โจทก์มีสิทธิจะนำเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึดเพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาได้ฎีกาของผู้ร้องที่ 2 ที่อ้างว่าได้มาซึ่งสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท จึงรับฟังไม่ได้เช่นกัน"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th