ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทำสัญญาจะซื้อขายบ้านพร้อมที่ดินจากจำเลยโดยผ่อนชำระเป็นงวด ๆ จำเลยสัญญาว่าจะปลูกบ้านให้แล้วเสร็จภายใน 90 วันนับแต่วันทำสัญญาโจทก์ได้ชำระเงินให้แก่จำเลยรวม 4 งวดรวมเป็นเงิน 90,000 บาท จำเลยปลูกบ้านไม่แล้วเสร็จตามสัญญา โจทก์จึงมีหนังสือบอกเลิกสัญญาแก่จำเลย ให้จำเลยคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย จำเลยเพิกเฉย จึงขอให้ศาลบังคับ

จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยสัญญาแก่โจทก์ว่าจะปลูกสร้างบ้านให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาชำระเงินแต่ละงวดไม่ครบตามที่ระบุในสัญญาจำเลยจึงบอกเลิกสัญญาและริบเงินที่โจทก์ได้ชำระไว้แล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกเงินคืนจากจำเลย ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงิน 90,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สัญญาจะซื้อขายบ้านพร้อมด้วยที่ดินตามเอกสารหมาย จ.1ไม่มีข้อสัญญาปลูกบ้านให้แล้วเสร็จภายใน 90 วันนับแต่วันทำสัญญา ดังนี้ โจทก์จะต้องห้ามมิให้นำสืบเพิ่มเติมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94หรือไม่ เห็นว่า สัญญาจะซื้อขายที่ดินพร้อมบ้านระหว่างโจทก์กับจำเลยดังกล่าวนั้นเป็นสัญญาต่างตอบแทน เมื่อข้อเท็จจริงรับกันว่าจำเลยจะต้องสร้างบ้านในที่ดินที่โจทก์ทำสัญญาจะซื้อขายจากจำเลยให้เสร็จ และโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินพร้อมบ้านในวันที่โจทก์ชำระเงินงวดสุดท้ายตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินพร้อมบ้านเอกสารหมาย จ.1 ข้อ 3 และโจทก์ได้ผ่อนชำระให้จำเลยไปบางส่วนแล้ว เป็นเงิน 90,000 บาทจำเลยจึงมีหนี้ที่จะต้องชำระตอบแทนแก่โจทก์คือต้องสร้างบ้านและส่งมอบให้แก่โจทก์ตามสัญญา ซึ่งตามปกติจะต้องกำหนดเวลาการสร้างบ้านให้แล้วเสร็จไว้ในสัญญาด้วยมิฉะนั้นจำเลยจะสร้างบ้านให้เสร็จเมื่อไรก็แล้วแต่ความพอใจของจำเลย อาจจะเป็น10 ปี หรือ 20 ปีก็ได้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เกี่ยวกับเรื่องที่กำหนดเวลาสร้างบ้านให้แล้วเสร็จเมื่อไรนั้น โจทก์ก็ได้กล่าวอ้างไว้ในฟ้องแล้ว แม้จะไม่ปรากฏในสัญญาเอกสารหมาย จ.1 ก็ตาม กรณีเช่นนี้โจทก์ย่อมมีสิทธินำสืบเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่จำเลยสัญญาว่าจะปลูกบ้านและให้โจทก์เข้าอยู่อาศัยได้ภายใน 90 วันนับแต่วันทำสัญญาได้ เพราะมิใช่เป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเพิ่มเติมเอกสารสัญญาแต่อย่างใด แต่เป็นการนำสืบถึงข้อตกลงต่างหากจากสัญญาจะซื้อขายเพื่อให้ชัดเจนและเพื่อให้คู่สัญญาปฏิบัติตามกำหนดระยะเวลาในสัญญาได้ กรณีจึงไม่ต้องห้ามตามบทบัญญัติมาตรา 94 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแต่ประการใดแม้โจทก์จะชำระเงินค่าที่ดินพร้อมบ้านให้จำเลยเพียง 90,000 บาท ไม่ครบถ้วนและไม่ตรงตามกำหนดเวลาตามสัญญาก็ตาม แต่จำเลยก็รับเงินไว้ตามใบเสร็จรับเงินและใบรับเอกสารหมาย จ.3 ถึง จ.5 จึงถือได้ว่าโจทก์จำเลยมิได้มีเจตนาถือเอากำหนดเวลาการชำระเงินและจำนวนเงินที่ชำระกันตามสัญญาเป็นสาระสำคัญทั้งการชำระเงินงวดสุดท้ายตามสัญญาเอกสารหมาย จ.1 ข้อ 3 ก็มิได้กำหนดวันชำระกันไว้ด้วยจากวันทำสัญญาคือวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2523 จนถึงวันที่โจทก์บอกเลิกสัญญาคือวันที่ 9 มีนาคม 2524 เป็นเวลา 1 ปีเศษ จำเลยก็มิได้ก่อสร้างบ้านให้เสร็จ จึงถือได้ว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์ย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญาเอกสารหมาย จ.1 แล้วคู่สัญญาคือโจทก์และจำเลยต้องกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 จำเลยจึงต้องคืนเงินจำนวน 90,000 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th