ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

กรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากตึกแถวของโจทก์ตามที่โจทก์ฟ้อง และมีการดำเนินการบังคับคดี ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องมิใช่บริวารของจำเลย ผู้ร้องอยู่ในตึกแถวพิพาทโดยอาศัยสิทธิของนางบุญศรีมารดาผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าบ้าน โจทก์ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ในตึกแถวพิพาท ขอให้งดการบังคับคดี

โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องเป็นบุตรของจำเลยและอยู่ในตึกแถวพิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลยจึงเป็นบริวารของจำเลย ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้อง

ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ผู้ร้องขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากตึกแถวพิพาทและส่งมอบตึกแถวพิพาทให้แก่โจทก์

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในเบื้องต้นเมื่อโจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่านางบุญศรีภรรยาจำเลยและผู้ร้องบุตรของจำเลยซึ่งเป็นบริวารของจำเลยไม่ยอมออกไปจากตึกแถวพิพาทผู้ร้องและนางบุญศรีได้แถลงต่อศาลชั้นต้นว่า ผู้ร้องและนางบุญศรีไม่ได้เข้าไปอยู่ในตึกแถวพิพาทแล้ว และผู้ร้องได้แถลงรับว่าจะย้ายสิ่งของออกไปภายในวันที่ 26 สิงหาคม 2522 ถ้าครบกำหนดไม่ยอมออกไปก็ให้ศาลออกหมายจับได้ทันที โจทก์ยอมตามที่ผู้ร้องแถลง ศาลชั้นต้นจึงสั่งให้ผู้ร้องปฏิบัติตามที่แถลง ต่อมาวันที่ 6 กันยายน 2522 โจทก์ยื่นคำร้องว่าผู้ร้องยังมิได้ขนย้ายออกไปจากตึกแถวพิพาท ขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายจับผู้ร้องเพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษาต่อไป ศาลชั้นต้นได้ออกหมายจับผู้ร้อง ครั้นวันที่ 13 กันยายน 2522 ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นความว่าผู้ร้องซึ่งเป็นบริวารของจำเลยขอมอบตัวต่อศาลและขอทำสัญญาประกันต่อศาลว่าจะขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากตึกแถวพิพาทภายใน 15 วัน ผู้ร้องได้ลงชื่อในฐานะบริวารจำเลยไว้ด้วย อันเป็นการยอมรับโดยชัดแจ้งว่าผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลยศาลชั้นต้นจดรายงานกระบวนพิจารณาว่า เห็นควรให้โอกาสแก่บริวารจำเลย จึงมีคำสั่งให้นายชัยยะบริวารจำเลย (ผู้ร้อง) ขนย้ายออกไปจากตึกแถวพิพาทของโจทก์ภายในวันที่ 28 กันยายน 2522 โดยให้นายชัยยะทำสัญญาประกันไว้ ผู้ร้องได้ลงชื่อในฐานะบริวารจำเลยในท้ายรายงานดังกล่าวและได้ทำสัญญาประกันต่อศาลในฐานะบริวารจำเลยด้วย แสดงว่าผู้ร้องยอมรับมาแต่ต้นว่าผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลยดังนั้น ผู้ร้องจะมายื่นคำร้องในภายหลังว่าผู้ร้องไม่ใช่บริวารของจำเลยอีกหาได้ไม่ส่วนที่ผู้ร้องอ้างว่าโจทก์ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ในตึกแถวพิพาท ปรากฏว่าคดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีถึงที่สุดโดยวินิจฉัยว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินและตึกแถวพิพาทผู้ร้องมีฐานะเป็นเพียงบริวารของจำเลย จึงไม่อาจเถียงได้อีกต่อไปว่าโจทก์ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ในตึกแถวพิพาท

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th