สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2522

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2522

พระธรรมนูญศาลยุติธรรม ม. 14 (2) พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจศาลแขวงนครราชสีมา ศาลแขวงสุรินทร์ ศาลแขวงอุบลราชธานี ศาลแขวงอุดรธานี ศาลแขวงขอนแก่น ศาลแขวงเชียงใหม่ ศาลแขวงลำปาง ศาลแขวงพิษณุโลก ศาลแขวงนครสวรรค์ ศาลแขวงสุพรรณบุรี ศาลแขวงนครศรีธรรมราช ศาลแขวงสุราษฎร์ธานี และศาลแขวงสงขลา พ.ศ.2520 ม. 5

ขณะเกิดเหตุคดีของโจทก์อยู่ในเขตอำนาจของศาลจังหวัดที่จะต้องรับฟ้องไว้พิจารณา แต่เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องได้มีพระราชกฤษฎีกาขยายเขตอำนาจศาลให้คดีของโจทก์อยู่ในเขตอำนาจของศาลแขวง โจทก์จึงต้องฟ้องคดีต่อศาลแขวง

คดีที่เกิดขึ้นในเขตศาลแขวงและอยู่ในอำนาจของศาลแขวงถ้ายื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดย่อมอยู่ในดุลพินิจของศาลจังหวัดที่จะไม่ยอมรับพิจารณาพิพากษาคดีที่ยื่นฟ้องเช่นนั้นได้

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2520 เวลากลางวัน จำเลยร่วมกันกับพวกหมิ่นประมาทโจทก์ เหตุเกิดที่ตำบลนาส่วน อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 83

ศาลชั้นต้น (ศาลจังหวัดอุบลราชธานี) มีคำสั่งไม่รับฟ้อง โดยเห็นว่าเป็นคดีอยู่ในเขตอำนาจของศาลแขวงอุบลราชธานี

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าแม้คดีนี้วันเกิดเหตุและสถานที่เกิดเหตุตามที่โจทก์กล่าวหาเดิมคดีจะอยู่ในเขตอำนาจของศาลจังหวัดอุบลราชธานีที่จะต้องรับฟ้องไว้พิจารณาก็ตาม แต่ต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจศาลแขวง ฯลฯ พ.ศ. 2520 ซึ่งเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจศาลแขวงหลายแห่งรวมทั้งศาลแขวงอุบลราชธานี ตามมาตรา 5 แห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวให้ศาลแขวงอุบลราชธานีมีเขตอำนาจในอำเภอเดชอุดมด้วยและตามมาตรา 2 พระราชกฤษฎีกาให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 31 ธันวาคม 2520 ฉะนั้น พระราชกฤษฎีกานี้จึงมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2521 ศาลแขวงอุบลราชธานีจึงมีเขตอำนาจในอำเภอเดชอุดมซึ่งความผิดคดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันดังกล่าว โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2521 จึงต้องไปฟ้องต่อศาลแขวงอุบลราชธานีซึ่งเป็นศาลที่มีเขตอำนาจตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 14(2)แม้คดีที่เกิดขึ้นในเขตศาลแขวงและอยู่ในอำนาจของศาลแขวงถ้ายื่นฟ้องต่อศาลจังหวัด ศาลจังหวัดก็ชอบที่จะรับฟ้องไว้พิจารณาได้นั้น ตามกฎหมายดังกล่าวบัญญัติให้อยู่ในดุลพินิจของศาลจังหวัดที่จะไม่ยอมรับพิจารณาพิพากษาคดีที่ยื่นฟ้องเช่นนั้นได้ คดีนี้ศาลจังหวัดอุบลราชธานีได้ใช้ดุลพินิจไม่รับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาแล้วไม่มีเหตุจะเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น คำวินิจฉัยของศาลล่างทั้งสองชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นายวิวัฒน์ สุนิติสาร จำเลย - นายบุญ ทองศรี

ชื่อองค์คณะ ภิญโญ ธีรนิติ สีห์ คลายนสูตร ภักดิ์ บุณย์ภักดี

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE