ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ขอให้บังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดบ้านเลขที่ 13/1 หมู่ที่ 2 ตำบลไกรใน อำเภอกงไกรลาศจังหวัดสุโขทัย ออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า บ้านเลขที่ 13/1 ที่โจทก์นำยึดเป็นทรัพย์สินของผู้ร้องที่สร้างมาประมาณ 5 ปี และผู้ร้องอยู่อาศัยบ้านหลังดังกล่าวตลอดมา เมื่อ พ.ศ. 2527 จำเลยแต่งงานกับบุตรสาวของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงต่อเติมบ้านบางส่วนให้จำเลยและบุตรสาวอาศัยอยู่ด้วยกัน ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด

โจทก์ให้การว่า บ้านที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้เป็นของจำเลย เมื่อประมาณ พ.ศ. 2527 จำเลยแต่งงานกับบุตรสาวผู้ร้องจำเลยปลูกบ้านหลังดังกล่าวเป็นเรือนหออยู่อาศัยกับภริยาในที่ดินของผู้ร้องโดยผู้ร้องยินยอมให้ปลูกสร้างลงในที่ดินได้ และปัจจุบันจำเลยก็อาศัยอยู่บ้านเรือนดังกล่าว ขอให้ยกคำร้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การสร้างบ้านพิพาทเป็นการต่อเติมออกไปจากบ้านของผู้ร้อง โดยทำการต่อเติมเสร็จ เมื่อ พ.ศ. 2527และใช้เลขที่บ้านเดียวกันคือเลขที่ 13/1 หมู่ที่ 2 ซึ่งตามสำเนาทะเบียนบ้านเอกสารหมาย ร.1 ระบุว่าเป็นบ้านของผู้ร้องในการสู่ขอบุตรสาวผู้ร้องผู้ร้องเรียกทอง 2 บาท และเรือนหอ 1 หลังผู้ร้องให้สร้างเรือนหอต่อจากบ้านผู้ร้องไป ค่าใช้จ่ายในการที่จำเลยแต่งงานนั้นใช้ไปประมาณ 60,000 บาทเศษ เงินดังกล่าวเป็นเงินของโจทก์ที่ช่วยออกให้จำเลย ซึ่งตามประเพณีเรือนหอนั้นสร้างให้เพื่อตอบแทนที่พ่อแม่ฝ่ายหญิงให้ลูกสาวแต่งงาน เรือนหอจะสร้างตรงไหนอย่างไรขึ้นอยู่กับพ่อแม่ของฝ่ายผู้หญิง จะเห็นได้ว่าความหมายของเรือนหอก็คือเป็นสินสอดที่ฝ่ายจำเลยซึ่งเป็นฝ่ายเจ้าบ่าวมอบแก่บิดามารดาของเจ้าสาว จากพยานหลักฐานดังกล่าวข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า โจทก์เป็นผู้จัดสร้างเรือนหอให้แก่จำเลยและบุตรสาวของผู้ร้อง เรือนส่วนที่จำเลยและบุตรสาวของผู้ร้องใช้อยู่อาศัยหลังแต่งงานย่อมตกเป็นของผู้ร้องเพราะมีลักษณะเป็นสินสอด ซึ่งต้องตกได้แก่ผู้ร้องมิได้เป็นทรัพย์ของจำเลยที่โจทก์จะบังคับคดียึดไปขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้ที่จำเลยเป็นหนี้โจทก์อยู่ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ผู้ร้องจึงร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่โจทก์ยึดไว้ได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th