ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 149, 157

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 รวมสามกระทง ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกจำเลยกระทงละ 5 ปี รวมสามกระทง จำคุก 15 ปี

โจทก์และจำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยฐานเป็นสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 รวม 18 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 5 ปี แต่ความผิดของจำเลยกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสิบปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงลงโทษจำคุกจำเลย 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3) นอกจากที่แก้ให้เป็นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยฎีกาและรับฎีกาของจำเลยเฉพาะปัญหาที่ว่า การที่จำเลยเรียกรับเงินค่าตอบแทนในการอนุญาตและอนุมัติการต่อสัญญาพนักงานจ้างปี 2554 จากพนักงานจ้างตามภารกิจและพนักงานจ้างทั่วไปของเทศบาลตำบลบ้านด่านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันหรือไม่ไว้พิจารณา ส่วนฎีกาในปัญหาอื่นไม่อนุญาตให้ฎีกา มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า การเรียกรับเงินค่าตอบแทนของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันนั้น ชอบหรือไม่ โดยจำเลยอ้างในฎีกาทำนองว่า ในการเรียกเงินตามที่โจทก์ฟ้อง โดยเรียกจากผู้เสียหาย 16 คน ในครั้งเดียวและสถานที่เดียวกันพร้อมกัน การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยมีเจตนาเดียว เป็นความผิดกรรมเดียว ไม่ใช่หลายกรรม เห็นว่า พนักงานที่จำเลยเรียกรับเงินค่าตอบแทนในการอนุญาตและอนุมัติการต่อสัญญานั้นมี 2 กลุ่ม กล่าวคือ พนักงานจ้างทั่วไปและพนักงานจ้างตามภารกิจ พนักงานในแต่ละกลุ่มต่างก็มีสัญญาจ้างเป็นการเฉพาะราย เมื่อจำเลยเรียกรับเงินค่าตอบแทนในการต่อสัญญาจากพนักงานแต่ละคน กรณีก็เป็นการกระทำความผิดแยกกันเป็นรายบุคคลตามเจตนาของจำเลยซึ่งแยกต่างหากจากกันได้ การที่จำเลยเรียกพนักงานเข้าพบเป็นกลุ่มและเรียกเงินค่าตอบแทนในครั้งเดียวกันก็เป็นลักษณะการดำเนินการของจำเลยที่ต้องการให้เกิดความสะดวกในเรื่องของการเรียกรับเงินเท่านั้น ทั้งการได้รับเงินจากพนักงานแต่ละคนก็เป็นการได้รับในภายหลัง พฤติการณ์การกระทำดังกล่าวจึงเป็นเรื่องต่างกรรมต่างวาระกัน เป็นความผิดหลายกรรม หาใช่เป็นความผิดกรรมเดียวตามที่จำเลยอ้างในฎีกาไม่ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรม จึงชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อท.6/2563

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th