ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินพิพาทแก่โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษายืน ให้โจทก์ใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ 1,000 บาท แทนจำเลย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยไม่มีสิทธิยึดถือโฉนดที่ดินพิพาทไว้ เพราะโจทก์และทายาทอื่นไม่มีส่วนรู้เห็นในหนี้ที่นายประสิทธิ์เป็นผู้ก่อขึ้น และจำเลยมีสิทธิบังคับคดีได้เฉพาะที่ดินส่วนที่เป็นของนายประสิทธิ์นั้น เห็นว่า เมื่อฟังได้ว่านายประสิทธิ์ได้กู้ยืมเงินจำเลยจริง โจทก์ยอมรับว่านายประสิทธิ์เป็นทายาทที่มีสิทธิได้รับมรดกที่ดินพิพาท นายประสิทธิ์จึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินแปลงดังกล่าว ย่อมมีสิทธินำโฉนดที่ดินไปให้จำเลยยึดถือเพื่อเป็นหลักประกันในการที่นายประสิทธิ์กู้ยืมเงินจากจำเลยได้ แม้ว่าโจทก์และทายาทอื่น ๆ จะไม่ได้รู้เห็นหรือให้ความยินยอม จำเลยก็ย่อมยึดถือโฉนดที่ดินดังกล่าวไว้ได้จนกว่านายประสิทธิ์จะชำระหนี้ให้แก่จำเลย หากโจทก์หรือทายาทอื่นได้รับความเสียหายจากการกระทำของนายประสิทธิ์ก็เป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากล่าวกับนายประสิทธิ์ต่างหาก หาเกี่ยวกับจำเลยไม่
ส่วนที่ว่าจำเลยมีสิทธิบังคับคดีได้เฉพาะที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของนายประสิทธิ์นั้น แม้จำเลยจะมีสิทธิดังที่โจทก์อ้างจริงก็เป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากล่าวกันในชั้นบังคับคดี อันเป็นคนละเรื่องกับการที่จำเลยใช้สิทธิยึดถือโฉนดที่ดิน อันเนื่องจากการที่นายประสิทธิ์นำมามอบให้ยึดถือไว้เพื่อประกันการกู้ยืมเงินและนายประสิทธิ์ยังไม่ชำระหนี้เงินกู้ยืมแก่จำเลย ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา









