ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ได้ทำสัญญาขายลดตั๋วเงินกับโจทก์ในวงเงินทุกขณะที่นำมาขายไม่เกิน 150,000 บาท มีจำเลยที่ 2 และที่ 3 ค้ำประกันโดยยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม และจำเลยที่ 3 ได้จำนองที่ดินเป็นประกันด้วย ต่อมาจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ขายลดเช็คแก่โจทก์ 3 ฉบับ รวมเป็นเงิน 150,600 บาท เช็คทั้ง 3 ฉบับเรียกเก็บเงินไม่ได้ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามชำระเงินหรือเอาทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาด

จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

จำเลยที่ 2 ศาลสั่งจำหน่ายคดี

จำเลยที่ 3 ให้การว่า การที่จะผูกพันจำเลยที่ 1 จะต้องมีจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อพร้อมประทับตราสำคัญของจำเลยที่ 1 เช็คทั้งสามฉบับจำเลยที่ 2 ลงชื่อสลักหลังและสั่งจ่ายในฐานะส่วนตัว ไม่ผูกพันจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิด เช็คขาดอายุความแล้ว ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยตามฟ้องแก่โจทก์ให้จำเลยที่ 3 ร่วมรับผิดชำระให้โจทก์เป็นเงิน 150,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย หากไม่ชำระให้นำทรัพย์ที่จำนองขายทอดตลาดนำเงินมาชำระ

จำเลยที่ 3 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 3 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ได้ตกลงขายลดตั๋วเงินให้โจทก์ในวงเงินไม่เกิน 150,000 บาท ต่อมาจำเลยที่ 2 มีหนังสือถึงนายฮวดพนักงานสินเชื่อของโจทก์ให้จัดการเรื่องแลกเช็ค กระดาษที่จำเลยที่ 2 เขียนถึงนายฮวดนั้นเป็นกระดาษแบบพิมพ์ของบริษัทจำเลยที่ 1 มีตราและชื่อโรงพยาบาลมหานครของจำเลยที่ 1บนหัวกระดาษ การที่จำเลยที่ 2 มอบเช็คให้นางสาวสุนันทารัตน์ไปแลกเงินกับโจทก์นั้นก็ได้ระบุตำแหน่งว่าเป็นสมุห์บัญชีโรงพยาบาลจำเลยที่ 1 และบอกด้วยว่าจำเลยที่ 2กำลังขยายโรงพยาบาลจำเลยที่ 1 เช่นนี้ย่อมทำให้โจทก์เข้าใจว่าเช็คดังกล่าวเป็นเช็คที่โรงพยาบาลจำเลยที่ 1 เป็นผู้ทรงและเงินที่แลกไปนั้นต้องนำไปใช้ในกิจการของโรงพยาบาลจำเลยที่ 1 ข้อเท็จจริงจึงเชื่อได้ว่าเช็ค 3 ฉบับที่นางสาวสุนันทารัตน์นำไปแลกเงินกับโจทก์เป็นเช็คที่บริษัทจำเลยที่ 1 เป็นผู้ทรง และเงินที่แลกไปนั้นได้นำไปใช้ในกิจการของจำเลยที่ 1 แม้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1ลงชื่อสลักหลังแต่ผู้เดียวโดยมิได้ประทับตราบริษัทจำเลยที่ 1 ตามข้อบังคับของบริษัทจำเลยที่ 1 ก็ตาม แต่พฤติการณ์ดังกล่าวย่อมแสดงว่าจำเลยที่ 1 รู้แล้วยอมให้จำเลยที่ 2 เชิดตัวจำเลยที่ 2 ออกแสดงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดในการที่จำเลยที่ 2 มอบเช็ค 3 ฉบับดังกล่าวให้นางสาวสุนันทารัตน์ไปแลกเงินมาจากโจทก์ จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันในวงเงิน 150,000 บาท และได้จำนองที่ดินไว้แก่โจทก์ จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1

โจทก์ฟ้องคดีนี้อันเนื่องมาจากสัญญาซื้อขายลดตั๋วเงินที่บริษัทจำเลยที่ 1 ทำไว้แก่บริษัทโจทก์ จึงมีอายุความฟ้องร้อง 10 ปี

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th