ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองเป็นลูกจ้างโจทก์มีหน้าที่รับเงินคืนประกันอากรซึ่งกรมศุลกากรเรียกเก็บจากลูกค้าของโจทก์ในการนำสินค้าเข้า และต่อมาได้คืนให้โดยผ่านทางโจทก์ จำเลยทั้งสองรับเงินมาแล้วเบียดบังเอาเสีย โจทก์ต้องชดใช้เงินให้แก่ลูกค้าพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จำเลยทั้งสองได้ทำหนังสือยอมรับสภาพหนี้ไว้แก่โจทก์แล้วไม่ชดใช้ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองให้ร่วมกันใช้เงิน 149,788.16 บาทพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยได้ชดใช้เงินคืนแก่โจทก์แล้วที่โจทก์ไปตกลงชดใช้ค่าเสียหายอีกนั้น จำเลยไม่ได้ยินยอมด้วย โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายไปตามอำเภอใจโดยไม่มีหน้าที่ต้องชำระ จึงไม่ผูกพันจำเลย และไม่มีระเบียบว่าจำเลยจะต้องส่งเงินคืนโจทก์เมื่อได้ โจทก์จะเรียกดอกเบี้ยไม่ได้

ในวันนัดพิจารณา คู่ความแถลงรับกันว่า ยอดหนี้ตามฟ้องเหลือเงินต้น 2,211.35 บาท ที่จำเลยทั้งสองยังไม่ได้จ่ายให้จำเลยยอมรับผิดในส่วนนี้สำหรับส่วนที่เหลือเป็นดอกเบี้ยจากจำนวนเงินที่โจทก์ต้องชำระให้แก่ลูกค้าแทนไปก่อนในอัตราร้อยละ15 ต่อปี เป็นเงิน 107,035.30 บาท ซึ่งจำเลยมิได้ตกลงว่าจะชำระให้ด้วยในการรับสภาพหนี้

ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า โจทก์ยอมเสียดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15ต่อปีให้แก่ลูกค้าของโจทก์ เป็นการยอมเสียดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดเป็นการจ่ายไปตามอำเภอใจของโจทก์โดยรู้อยู่ว่าไม่มีความผูกพันต้องชำระ จึงฟ้องเรียกจากจำเลยไม่ได้ และโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายไม่ได้เป็นการนอกเหนือจากหนังสือรับสภาพหนี้ พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 2,211.05 บาทแก่โจทก์คำขออื่นให้ยก

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า เกี่ยวกับเงินคืนประกันอากรที่จำเลยทั้งสองยักยอกไปนี้ จำเลยทั้งสองได้ทำบันทึกตกลงรับสภาพหนี้ให้ไว้แก่โจทก์ตามเอกสารหมาย จ.1 ซึ่งความในข้อฉ.ระบุว่า 'จำนวนเงินคืนประกันอากรซึ่งข้าพเจ้าทั้งสองตกลงยอมรับผิดต่อบริษัท ตามหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้าทั้งสองตกลงยินยอมชำระดอกเบี้ยให้แก่บริษัทในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับจากวันที่ข้าพเจ้าทั้งสองรับคืนจากกรมศุลกากร จนถึงวันที่ข้าพเจ้าทั้งสองชำระให้แก่บริษัทเสร็จสิ้น' บันทึกความตกลงรับสภาพหนี้ดังกล่าวเป็นนิติกรรมซึ่งจำเลยทั้งสองได้ทำขึ้นด้วยความสมัครใจ และไม่ขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งมีผลบังคับได้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าโจทก์ได้ชดใช้เงินให้แก่บริษัทลูกค้าของโจทก์ไปโดยคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีตามที่จำเลยทั้งสองตกลงชำระให้แก่โจทก์เป็นเงิน 107,035.30 บาทจำเลยทั้งสองจึงต้องร่วมรับผิดชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ดอกเบี้ยจำนวนเงิน 107,035.30 บาทแก่โจทก์ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th