สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2344/2523

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2344/2523

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 118

โจทก์ตกลงกู้เงินจากจำเลยโดยเอาที่พิพาทจำนองค้ำประกันแต่ทำสัญญาขายฝากเป็นนิติกรรมอำพราง และเมื่อปรากฏว่าจำเลยขายที่พิพาทให้แก่บุคคลอื่นไปแล้ว จำเลยก็ต้องคืนเงินดังกล่าวให้โจทก์โดยหักเงินที่โจทก์กู้ออกจากเงินดังกล่าว

เนื้อหาฉบับเต็ม

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ข้อเท็จจริงน่าเชื่อว่าโจทก์ตกลงกู้เงินจากจำเลย 160,000 บาทโดยเอาที่พิพาทจำนองค้ำประกัน สัญญาขายฝากเอกสารหมาย จ.2 เป็นนิติกรรมอำพราง ตามเอกสารหมาย จ.9 14 ชุดได้ความว่าจำเลยขายที่พิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างไปเป็นเงินทั้งสิ้น 375,000 บาท จำเลยต้องคืนเงินให้โจทก์ 217,500 บาท ครบกำหนดไถ่ถอนไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับดอกเบี้ยจากโจทก์ ดอกเบี้ยที่จำเลยเรียกจากโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.1 เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด จึงไม่กำหนดค่าดอกเบี้ยที่โจทก์จะพึงชำระให้แก่จำเลยหลังจากครบกำหนดไถ่ถอน ส่วนค่าเสียหายที่โจทก์เรียกจากจำเลยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนั้น เห็นว่าโจทก์มีหน้าที่จะต้องชำระค่าเสียหายทำนองนี้เช่นกันให้แก่จำเลยนับแต่วันโจทก์ผิดนัดไม่ทำการไถ่ถอน จึงเห็นสมควรไม่กำหนดค่าเสียหายส่วนนี้ให้แก่โจทก์

พิพากษากลับ ให้จำเลยคืนเงิน 217,500 บาทให้แก่โจทก์ คำขอนอกจากนี้ให้ยก ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ"

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นางสาวพงษ์ศิริ วิชิตนันท์ จำเลย - นายทวีวัฒน์ รดีศรี กับพวก

ชื่อองค์คณะ วิทูร เทพพิทักษ์ ไพบูลย์ ไวกาสี สุนทร วรรณแสง

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE