คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2355/2523
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 23
การที่จำเลยอ้างว่าค่าธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์เป็นเงินเกือบ10,000 บาท จำเลยยังหาได้ไม่ครบนั้น ยังถือไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษ ตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23ในอันที่จะให้ศาลมีอำนาจสั่งขยายระยะเวลาการวางเงินค่าธรรมเนียมให้ได้ตามคำร้องของจำเลย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตและให้ยกคำร้องของจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "การอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 ได้บัญญัติให้ผู้อุทธรณ์ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำสั่งมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์นั้นด้วย และในกรณีที่ศาลจะมีคำสั่งขยายหรือย่นระยะเวลาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ที่ให้อำนาจไว้นั้นจะกระทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษข้ออ้างตามคำร้องของจำเลยอ้างเพียงว่าค่าธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์เป็นเงินเกือบ 10,000 บาท จำเลยยังหาได้ไม่ครบ ซึ่งตามข้ออ้างของจำเลยดังกล่าวศาลฎีกาเห็นว่า ยังถือไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษตามความหมายของมาตรา 23ในอันที่จะให้ศาลมีอำนาจสั่งขยายระยะเวลาการวางเงินค่าธรรมเนียมให้ได้ตามคำร้องของจำเลย"
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - นางอรุณ อิสสอาด จำเลย - นายเลิศหรือบุญเลิศ แซ่ตั้ง
ชื่อองค์คณะ สนิท อังศุสิงห์ ชลูตม์ สวัสดิทัต วัฒน์ ผดุงจิตร
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan