ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖, ๘๓

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ วรรคสอง จำคุกคนละ ๑๕ ปี

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค ๘ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๒ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตาม คำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยที่ ๑ ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า? มีปัญหาต้องวินิจฉัยต่อไปว่า จำเลยที่ ๑ กระทำความผิดฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา ผู้เสียหายอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๖ วรรคสอง ตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า การที่จำเลยที่ ๑ จะมีความผิดดังกล่าว จำเลยที่ ๑ ต้องสมคบกับนายยุทธนามาแต่ต้น และขณะเกิดเหตุก็ได้ร่วมกันผลัดเปลี่ยนข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายด้วย แต่ทางพิจารณาโจทก์มิได้นำสืบว่า จำเลยที่ ๑ และนายยุทธนาร่วมกระทำความผิดด้วยกันในลักษณะอย่างไร กับไม่ปรากฏว่าขณะจำเลยที่ ๑ กำลังพยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายนั้น บุคคลทั้งสองได้ตกลงกันให้นายยุทธนารอที่จะเข้าข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเป็นคนต่อไป ผู้เสียหายเพิ่งจะเบิก ความกล่าวถึงนายยุทธนาหลังจากที่จำเลยที่ ๑ พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายแล้ว และเมื่อนายยุทธนาพาผู้เสียหายออกจากขนำที่เกิดเหตุ ผู้เสียหายก็ไม่พบจำเลยที่ ๑ ด้วย โดยผู้เสียหายยังเบิกความอีกว่า ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุจำเลยที่ ๑ ก็ไม่เคยเอ่ยชื่อถึงนายยุทธนาเลย นอกจากนั้นขณะที่จำเลยที่ ๑ และนายยุทธนาต่างเข้าไปพบผู้เสียหายในขนำที่เกิดเหตุคนละคราวนั้น จำเลยที่ ๑ และนายยุทธนาต่างก็พูดขอร่วมเพศกับผู้เสียหายทำนองขอความยินยอมจาก ผู้เสียหายก่อน แต่เมื่อผู้เสียหายไม่ยินยอม จำเลยที่ ๑ และนายยุทธนาจึงได้ใช้กำลังข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายหากจำเลยที่ ๑ และนายยุทธนามีเจตนาร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายมาตั้งแต่ต้น จำเลยที่ ๑ และนายยุทธนาก็คง ช่วยกันจัดการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายในทันทีที่เข้าไปพบผู้เสียหายในขนำที่เกิดเหตุ บุคคลทั้งสองคงไม่จำต้องรั้งรอเพื่อพูดขอร่วมเพศกับผู้เสียหายด้วยความสมัครใจของผู้เสียหายก่อนเป็นแน่ พฤติการณ์ต่าง ๆ แห่งคดีฟังไม่ได้ว่าขณะเกิดเหตุจำเลยที่ ๑ และนายยุทธนามีเจตนาร่วมกันผลัดเปลี่ยนข่มขืน กระทำชำเราผู้เสียหายมาแต่ต้น ถือว่าจำเลยที่ ๑ และนายยุทธนาต่างมีเจตนาของตนเองไม่เกี่ยวข้องซึ่งกันและกันเพื่อที่จะข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย จำเลยที่ ๑ จึงไม่มีความผิดฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงตามฟ้อง แต่มีความผิดเพียงฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเท่านั้นข้อต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ของจำเลยที่ ๑ นั้นไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยที่ ๑ ในความผิดฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ ๑ ฟังขึ้นบางส่วน

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๖ วรรคแรก ประกอบด้วย มาตรา ๘๐ ให้จำคุก ๔ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๘

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th