ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215, 83

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 วรรคสาม ให้ลงโทษจำคุก 1 ปี ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อน เมื่อได้คำนึงถึงอายุ ประวัติ ความประพฤติอาชีพของจำเลยและสภาพความผิดแล้ว สมควรรอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2532 ห้างหุ้นส่วนจำกัดวิรัฐการทอได้เลิกจ้างลูกจ้าง ซึ่งเป็นกรรมการของสหภาพแรงงานวิรัฐการทอจำนวน 6 คน วันที่ 22 เดือนเดียวกันลูกจ้างซึ่งเป็นสมาชิกของสหภาพแรงงานดังกล่าวประมาณ 300 คน ได้ร่วมกันนัดหยุดงานประท้วงที่บริเวณหน้าโรงงาน วันที่ 23 เดือนเดียวกัน ห้างหุ้นส่วนจำกัดวิรัฐการทอได้ประกาศเลิกจ้าง ลูกจ้างที่นัดหยุดงานอีก425 คน เป็นเหตุให้การนัดหยุดงานประท้วงต้องยืดเยื้อต่อไปจนถึงวันที่ 7 เมษายน 2532 อันเป็นวันเวลาที่โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยเป็นคดีนี้ ซึ่งในวันดังกล่าวมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น โดยมีการปะทะและทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันระหว่างลูกจ้างที่นัดหยุดงานกับลูกจ้างที่ทำงานในโรงงาน อันเนื่องจากลูกจ้างที่นัดหยุดงานไม่ยอมให้ลูกจ้างที่ทำงานออกจากโรงงาน และมีการขว้างปาวัตถุก้อนอิฐก้อนหินเข้าไปในโรงงานด้วย วันที่ 8 เมษายน 2532 ลูกจ้างที่นัดหยุดงาน ได้ตั้งแถวปิดกั้นประตูทางเข้าโรงงานไม่ยอมให้ลูกจ้างอีกส่วนหนึ่งที่ต้องการทำงานเข้าไปในโรงงาน หลังจากนั้นได้พากันเดินขบวนไปบ้านนายสุวัฒน์สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้นเพื่อขอให้เจรจากับนายจ้างให้รับลูกจ้างกลับเข้าทำงาน จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทยได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์นัดหยุดงานด้วย ปัญหาวินิจฉัยในชั้นนี้มีว่า จำเลยได้กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่าเหตุที่ลูกจ้างนัดหยุดงานครั้งนี้เนื่องจากห้างหุ้นส่วนจำกัดวิรัฐการทอเลิกจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการของสหภาพแรงงานวิรัฐการทอ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลล่างทั้งสองว่า การนัดหยุดงานมิได้เป็นไปตามขั้นตอนและเงื่อนไขดังที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ. 2518 อันจะทำให้ลูกจ้างมีสิทธินัดหยุดงานได้ ซึ่งจำเลยก็ยอมรับในข้อนี้ คงฎีกาโต้เถียงว่า การนัดหยุดงานดังกล่าวเป็นการต่อรองเพื่อให้นายจ้างรับลูกจ้างกลับเข้าทำงานเท่านั้นหามีเจตนาประสงค์จะก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองไม่เห็นว่า วิธีการนัดหยุดงานที่ลูกจ้างนำมาใช้เพื่อต่อรองกับนายจ้างครั้งนี้ นอกจากมิใช่การแก้ไขตามวิถีทางของกฎหมายที่มีอยู่ซึ่งเปิดช่องให้แล้ว ยังเป็นวิธีการซึ่งไม่น่าจะเป็นที่ยอมรับของนายจ้างโดยทั่วไป กล่าวคือ แม้ในระยะเริ่มต้นลูกจ้างจะนัดหยุดงานด้วยความสงบ ต่อมาปรากฏว่ามีการปะทะและทำร้ายซึ่งกันและกันระหว่างลูกจ้างที่นัดหยุดงานและลูกจ้างที่ทำงานในโรงงาน มีการปิดกั้นประตูทางเข้าออกโรงงานเพื่อมิให้ลูกจ้างอีกส่วนหนึ่งที่ประสงค์จะเข้าทำงานเข้าออกได้ นอกจากนี้ยังมีการขว้างปาวัตถุก้อนอิฐก้อนหินเข้าไปในโรงงานด้วย เหตุเกิดริมถนนสาธารณะอันเป็นที่สัญจรของบุคคลทั่วไป การกระทำดังกล่าวย่อมเป็นความผิดฐานก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง…"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th