ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องว่า จ่าสิบตำรวจประสงค์ เจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอด่านซ้ายจับกุมจำเลยกับพวกในข้อหาความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครอง จำเลยให้เงินไม่ทราบจำนวนแน่ชัดแก่จ่าสิบตำรวจประสงค์เพื่อจูงใจมิให้จับกุมจำเลยกับพวกอันเป็นการมิชอบด้วยหน้าที่ จ่าสิบตำรวจประสงค์ไม่ยอมรับเงิน ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 144
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 144 ให้จำคุก 3 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับเฉพาะฎีกาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า จ่าสิบตำรวจประสงค์ รับราชการเป็นตำรวจซึ่งมีหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยได้รับการแต่งตั้งตามกฎหมาย ย่อมเป็นเจ้าพนักงาน แม้ขณะเกิดเหตุจะถูกส่งตัวไปช่วยราชการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน มีตำแหน่งหน้าที่เป็นหัวหน้าชุดคุ้มครองตำบลปากหมัน มีหน้าที่คุ้มครองหมู่บ้านและตำบล ป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ แต่โดยทั่วไปจ่าสิบตำรวจประสงค์ยังมีอำนาจสืบสวนคดีอาญาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 17 การที่จ่าสิบตำรวจประสงค์มายังที่เกิดเหตุเพื่อจะจับกุมผู้กระทำความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครอง จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าพนักงานตามกฎหมาย เมื่อจำเลยได้ให้เงินจำนวนหนึ่งแก่จ่าสิบตำรวจประสงค์เพื่อจูงใจมิให้จับกุมจำเลยกับพวกในข้อหามีกัญชาไว้ในครอบครอง การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 แม้จ่าสิบตำรวจประสงค์จะยังมิได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน หรือแสดงความประสงค์ที่จะเข้าทำการตรวจค้นหรือจับกุมจำเลยกับพวก หรือมิได้แต่งเครื่องแบบก็หาทำให้การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดไม่
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา









