ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นลูกจ้างประจำของจำเลยเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2529 จำเลยเลิกจ้าง โจทก์ทั้งสองโดยไม่มีความผิด ไม่มีเหตุอันสมควรและไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า เป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ขอให้จำเลยรับโจทก์ทั้งสองกลับเข้าทำงานตามเดิม มิฉะนั้นให้จำเลยจ่ายค่าเสียหาย ค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าพรอมดอกเบี้ยแก่โจทก์ทั้งสอง

จำเลยให้การว่า เลิกจ้างโจทก์ทั้งสองเนื่องจากโจทก์ทั้งสองดื่มสุราในขณะปฏิบัติงาน เป็นการฝ่าฝืนระเบียบเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะโจทก์ที่ 2 เคยฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานถูกจำเลยตักเตือนเป็นหนังสือมาแล้วสองครั้ง

ศาลแรงงานกลาง พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์ทั้งสองกระทำผิดต่อระเบียบข้อบังคับของจำเลยเป็นกรณีร้ายแรงหรือไม่ว่า จำเลยประกอบกิจการผลิตเหล็กโดยใช้เครื่องจักรเป็นเครื่องมือในการผลิตและมีพนักงานเป็นผู้ควบคุมดูแลเครื่องจักรอีกชั้นนหึ่ง การผลิตเหล็กของจำเลยจึงเป็นกิจการที่อาจเกิดอันตรายแก่พนักงานหรือก่อให้เกิดการเสียหายแก่จำเลยได้ง่าย ฉะนั้น การที่จำเลยออกระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานตามเอกสารท้ายคำให้การ โดยกำหนดไว้ในข้อ 17 (3)ว่า 'เสพสุราหรือของมีนเมาในบริเวณโรงงานหรือในขณะปฏิบัติงาน ฯลฯ' ถือเป็นความผิดร้ายแรงนั้น ก็โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะป้องกันภยันตรายซึ่งจะเกิดแก่พนักงานหรือจำเลยไว้ล่วงหน้า และการเสพสุราย่อมเข้ามูลเหตุให้เกิดความประมาทในขณะปฏิบัติงาน ข้ออุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองว่าได้เสพสุราซึ่งมีแอลกอฮอล์น้อยมีปริมาณเล็กน้อยไม่ทำให้มึนเมาและโจทก์ทั้งสองสามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าการที่โจทก์ทั้งสองกระทำผิดต่อระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยดังกล่าว ย่อมถือว่าเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยเป็นกรณีร้ายแรงตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 47 (3) โดยไม่จำต้องรอให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยก่อนแต่อย่างใด จำเลยจึงมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ทั้งสอง ไม่เป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมและจำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยหรือสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้แก่โจทก์ทั้งสองที่ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสองชอบแล้ว

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th