คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2420/2565
ประมวลกฎหมายอาญา ม. 22, 53, 91 (3), 277 วรรคสี่, 279 วรรคสาม, 285
จำเลยกระทำความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีโดยใช้อาวุธรวม 2 กระทง แม้ลงโทษจำคุกกระทงละตลอดชีวิต ก็เรียงกระทงลงโทษจำคุกตลอดชีวิตจำเลย 2 กระทง ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 92, 277, 279, 285 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 57, 91, 97 และเพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมาย
จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสี่, 279 วรรคสาม ประกอบมาตรา 285 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 57, 91 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีโดยใช้อาวุธกับฐานกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และเป็นการกระทำแก่ผู้อยู่ภายใต้อำนาจด้วยประการอื่นใด เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีโดยใช้อาวุธ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 รวม 2 กระทง จำคุกกระทงละตลอดชีวิต ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน จำคุก 6 เดือน เมื่อลงโทษฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีโดยใช้อาวุธให้จำคุกตลอดชีวิตแล้วจึงไม่อาจเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 51 เพิ่มโทษฐานเสพเมทแอมเฟตามีนกึ่งหนึ่งตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 97 เป็นจำคุก 9 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 ให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีโดยใช้อาวุธ คงจำคุกกระทงละ 25 ปี ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน คงจำคุก 3 เดือน เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้จำคุก 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3)
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นตามรายงานกระบวนพิจารณา ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 104, 162 ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน จำคุก 2 เดือน เพิ่มโทษหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 เป็นจำคุก 2 เดือน 20 วัน ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน 10 วัน เมื่อรวมกับโทษฐานอื่นที่ศาลชั้นต้นกำหนดแล้ว ให้จำคุก 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3) นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่ได้โต้แย้งกันในชั้นฎีการับฟังเป็นยุติว่า ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีโดยใช้อาวุธ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 รวม 2 กระทง ให้จำคุกกระทงละตลอดชีวิต แล้วลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 กระทงละกึ่งหนึ่ง ให้จำคุก 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3) มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาเรียงกระทงลงโทษจำคุกตลอดชีวิตจำเลยมา 2 กระทง นั้น ชอบหรือไม่ เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติแล้วว่า จำเลยได้กระทำความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีโดยใช้อาวุธ ซึ่งเป็นบทหนักรวม 2 กระทง ศาลจึงต้องลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ที่ศาลล่างทั้งสองเรียงกระทงลงโทษจำคุกตลอดชีวิตจำเลยมา 2 กระทง นั้น จึงชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.1169/2565
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการจังหวัด จำเลย - นาย ว.
ชื่อองค์คณะ อุทัย โสภาโชติ รักเกียรติ วัฒนพงษ์ เศรณี ศิริมังคละ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลจังหวัดนครพนม - นางสาวณัฐนิตา ธรรมกิตติคุณ ศาลอุทธรณ์ - นายก่อศักดิ์ เจนสมุทรสินธุ์