ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจมีหน้าที่สืบสวนจับกุมผู้กระทำผิด จำเลยบุกรุกเข้าไปในบ้านและกลั่นแกล้งจับกุมนายจำรัส คงพลาย ผู้เสียหาย อ้างว่ากระทำผิดฐานเมาสุราอาละวาดเนื่องจากจำเลยโกรธผู้เสียหายที่พูดว่า "ที่นี่ไม่มีไพ่ มีแต่วงเหล้า" อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายเมื่อจับกุมแล้ว จำเลยได้ร่วมกันใช้กำลังกายกระชาก ฉุด ล๊อคคอผู้เสียหายออกจากบ้านไปที่โรงเรียนปัญญาวรคุณซึ่งเป็นการหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหาย จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตร 157, 295,310, 364, 365(2), 83 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2502มาตรา 13

จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 310 ลงโทษฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจำคุกคนละ1 ปี ลงโทษฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นจำคุกคนละ 2 เดือน กับลงโทษจำเลยที่ 1ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น จำคุก 2 เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 1 1 ปี 4 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 3 คนละ 1 ปี 2 เดือน

จำเลยทั้งสามอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ความผิดตามมาตรา 157 และ 310 นั้นเป็นกรรมเดียว ผิดกฎหมายหลายบท และโจทก์มิได้นำสืบให้ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนาทำร้ายผู้เสียหาย พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จำคุกคนละ 1 ปี ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 สำหรับความผิดฐานทำร้ายร่างกาย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยที่ 1 จับมือผู้เสียหายกระชากโดยแรงจนผู้เสียหายล้มลงและได้รับบาดเจ็บที่นิ้วนางซ้ายและหัวเข่าซ้าย แพทย์ลงความเห็นว่าบาดแผลของผู้เสียหายต้องใช้เวลารักษาประมาณ 5 วัน ตามพฤติการณ์แสดงว่าจำเลยมีเจตนาทำร้ายผู้เสียหายแล้ว จำเลยที่ 1 จึงต้องมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นตามมาตรา 295 ส่วนปัญหาที่ว่า จำเลยทั้งสามกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 และความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพตามมาตรา 310 จะเป็นการกระทำผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมต่างกันนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า แม้การกระทำผิดของจำเลยทั้งสามจะเป็นการกระทำหลายอย่าง แต่ก็ด้วยเจตนาอันเดียวกันคือเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และเป็นการกระทำต่อเนื่องกัน การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงเป็นกรรมเดียวกัน แต่เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 อีกกระทงหนึ่ง จำคุก 2 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th