ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้กระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกันคือก. เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2523 เวลากลางวันจำเลยกับพวกรวม 4 คนได้ข่มขืนใจโจทก์ให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ธนาคารกสิกรไทย จำกัด สาขาน่านได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินโดยขู่ว่าจะเปิดเผยความลับ ซึ่งเกิดเปิดเผยนั้นจะทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย และหลอกลวงโจทก์ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดข้อความซึ่งควรบอกให้แจ้ง โดยการขู่และหลอกลวงดังกล่าวทำให้โจทก์จำต้องทำเอกสารสิทธิคือหนังสือรับสภาพหนี้ 1 ฉบับ รับว่าจะชำระเงินให้ธนาคารกสิกรไทย จำกัด สาขาน่านจำนวน 80,000 บาท ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ข. เมื่อวันที่ 1 เมษายน2523 เวลากลางวัน จำเลยได้แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าโจทก์ทำการฉ้อโกงธนาคารกสิกรไทย จำกัด สาขาน่าน จำนวน 80,000 บาท ด้วยการปลอมแปลงการ์ดบัญชีออมทรัพย์ และสมุดคู่ฝากบัญชีออมทรัพย์ปรากฏตามบันทึกรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีลงวันที่ 1 เมษายน 2523 ท้ายฟ้อง ซึ่งเป็นความเท็จทั้งสิ้น เพราะโจทก์มิได้กระทำผิดหรือร่วมกับผู้ใดกระทำผิดดังอ้าง การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดที่ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172, 338 และมาตรา 341

ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วฟังว่า จำเลยมิได้ขู่โจทก์ฟ้องโจทก์ฐานรีดเอาทรัพย์และฉ้อโกงเป็นฟ้องที่ไม่ชอบ ความที่จำเลยแจ้งไม่เป็นเท็จฟ้องโจทก์ไม่มีความผิดทางอาญา พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาประการแรกว่าฟ้องของโจทก์ในข้อหาความผิดฐานรีดเอาทรัพย์และฉ้อโกงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) หรือไม่ ตามฟ้องของโจทก์ที่กล่าวหาว่าจำเลยรีดเอาทรัพย์โดยขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับซึ่งการเปิดเผยจะทำให้โจทก์เสียหายนั้น เห็นว่าตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ความลับซึ่งการเปิดเผยจะทำให้โจทก์เสียหายนั้น เป็นความลับเรื่องใดโจทก์หาได้บรรยายให้ปรากฏไม่ และที่กล่าวหาว่าจำเลยฉ้อโกงหลอกลวงโจทก์ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งนั้น ข้อความใดที่เป็นความเท็จและความจริงเป็นอย่างไรก็มิได้ปรากฏตามคำบรรยายฟ้องเช่นกันฟ้องของโจทก์จึงเคลือบคลุม ไม่บรรยายมาพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้อง ศาลชั้นต้นไม่ประทับฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161 วรรคแรกประกอบด้วยมาตรา 158(5) ชอบแล้ว

ปัญหาที่ว่าศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ในกระทงความเท็จฐานแจ้งความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172ชอบด้วยวิธีพิจารณาหรือไม่ เห็นว่าความผิดตามมาตรานี้มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับซึ่งศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษาว่าคดีไม่มีมูล โจทก์คงมีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาได้ตามบทบัญญัติว่าด้วยลักษณะอุทธรณ์ฎีกา ทั้งนี้ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 170 วรรคแรก ฉะนั้นเมื่ออุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องด้วยข้อห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาภาค 4 อุทธรณ์ฎีกา ลักษณะ 1 อุทธรณ์หมวด 1 หลักทั่วไป มาตรา 193 ทวิ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา(ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2517 มาตรา 3 นั้นด้วย ที่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ชอบแล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th