ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยทั้งสองต่อมาศาลได้ออกหมายบังคับคดียึดบ้านและที่ดินของจำเลยทั้งสอง ในระหว่างการดำเนินการประกาศขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ยึดดังกล่าวจำเลยทั้งสองได้อุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องของจำเลยทั้งสองซึ่งร้องขอให้เพิกถอนการบังคับคดีและขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดต่อศาลอุทธรณ์อันเป็นเหตุให้ศาลมีคำสั่งให้รอการขายทอดตลาดเพื่อรอคำสั่งศาลอุทธรณ์ ยังผลให้โจทก์ไม่อาจได้รับชำระหนี้จากจำเลยทั้งสองตามคำพิพากษาที่ยังค้างชำระอยู่จำนวน4,800,000 บาท ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชดใช้เงินจำนวน 748,010 บาท 95 สตางค์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 12 ต่อปี จากต้นเงิน 4,800,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยทั้งสองยื่นคำให้การว่า จำเลยทั้งสองใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์เป็นการใช้สิทธิทางศาลโดยสุจริต ไม่ได้กระทำการอันเป็นการละเมิดซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิเคราะห์คำฟ้องและคำให้การจำเลยทั้งสองแล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำฟ้องของโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยทั้งสองทำละเมิดต่อโจทก์โดยการอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องของจำเลยทั้งสองเพื่อให้ศาลมีคำสั่งรอการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดทั้ง ๆที่จำเลยทั้งสองไม่มีทางชนะคดี เพราะตกเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความโดยชัดแจ้งนั้นเห็นว่า การปฏิบัติผิดสัญญาประนีประนอมยอมความหรือการใช้สิทธิฟ้องหรือต่อสู้คดีทางศาลรวมทั้งการอุทธรณ์ฎีกาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายหาใช่การทำละเมิดไม่กรณีของโจทก์เป็นเรื่องที่อ้างว่าจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งศาลได้พิพากษาตามยอมแล้วและโจทก์ขอให้มีการบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ การที่จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึดและเพิกถอนการบังคับคดีตลอดจนอุทธรณ์คำสั่งศาลในกรณีดังกล่าวย่อมเป็นการใช้สิทธิตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งบัญญัติไว้ ทั้งโจทก์ก็มิได้กล่าวอ้างข้อเท็จจริงอื่นใดที่แสดงว่าจำเลยทั้งสองใช้สิทธิดังกล่าวโดยไม่สุจริต การกระทำของจำเลยทั้งสองตามที่โจทก์บรรยายในฟ้อง จึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ ส่วนที่กรณีดังกล่าว ทำให้การบังคับคดีต้องล่าช้าออกไปก็เป็นความจำเป็นซึ่งจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาไปตามที่กฎหมายบังคับไว้ โจทก์จะอ้างเอาเป็นเหตุเรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสองหาได้ไม่

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th