ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขับรถจักรยานยนต์ไปตามถนนแห่งหนึ่งด้วยความเร็วสูง ระหว่างทางตรงบริเวณที่เกิดเหตุจำเลยแซงรถบรรทุกจนพ้นและแล่นอยู่ในทางของจำเลยแล้ว จำเลยเห็นนางแฉ่งขับขี่รถจักรยานสองล้ออยู่ข้างหน้าไปทางเดียวกับรถของจำเลยกำลังจะเลี้ยวขวาข้ามถนนตัดหน้าและขวางทางวิ่งของรถของจำเลยในระยะประมาณ 4 วา จำเลยให้สัญญาณแตรเตือนแล้วนางแฉ่งก็ยังเลี้ยวรถมาทางขวาตัดหน้าและขวางทางวิ่งของรถที่จำเลยขับในระยะกระชั้นชิด เป็นเหตุให้จำเลยหยุดรถหรือหลบหลีกไม่ทัน รถของจำเลยและนางแฉ่งจึงชนกัน ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัส อันเป็นความประมาทร่วมกั ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ. ศ. 2477 มาตรา 29(4), 66 ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2508 มาตรา 7,13 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 59 ข้อ 11

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่าจำเลยขับรถจักรยานยนต์แซงขึ้นหน้ารถคันอื่นเมื่อถึงทางแยก เป็นเหตุให้ชนกับรถจักรยานสองล้อของนางแฉ่ง พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 29(4), 66 ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2508 มาตรา 7ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 59 ข้อ 11 ลงโทษตามมาตรา 300 ซึ่งเป็นบทหนัก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยอุทธรณ์ได้เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์มิได้บรรยายฟ้องเลยว่าบริเวณที่จำเลยขับรถจักรยานยนต์แซงรถจักรยานสองล้อที่นางแฉ่งเป็นผู้ขับขี่เป็นบริเวณทางแยก การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยขับขี่รถจักรยานยนต์แซงรถจักรยานสองล้อตรงทางแยกเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 28 ทวิ(1) แก้ไขโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 59 พ.ศ. 2515ข้อ 5 จึงเป็นการฟังข้อเท็จจริง นอกเหนือจากคำฟ้อง เหตุนี้เมื่อศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงในตอนต่อมาว่า หลังจากจำเลยให้สัญญาณขอทางแล้ว ขณะจำเลยขับรถจะแซงขึ้นไป นางแฉ่งหักรถจักรยานมาทางขวามือกระทันหันตัดหน้ารถจำเลยอย่างกระชั้นชิด เหตุที่รถเกิดชนกันจึงมิใช่ความผิดของจำเลยพิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกาว่า โจทก์ไม่จำต้องบรรยายฟ้องว่าจำเลยขับรถจักรยานยนต์แซงขึ้นหน้ารถคันอื่นตรงบริเวณทางแยก ศาลก็รับฟังข้อเท็จจริงดังกล่าวลงโทษจำเลยได้

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในการบรรยายฟ้องประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) บัญญัติให้โจทก์ต้องบรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี มาตรา 192 วรรคแรกห้ามมิให้พิพากษาหรือสั่งเกินคำขอหรือที่มิได้กล่าวในฟ้อง เมื่อโจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยขับรถจักรยานยนต์แซงขึ้นหน้ารถคันอื่นตรงบริเวณทางแยกข้อเท็จจริงดังกล่าวก็เป็นข้อเท็จจริงนอกเหนือจากฟ้องจะรับฟังลงโทษจำเลยหาได้ไม่

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th