ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นกรมในสังกัดกระทรวงการคลัง มีอำนาจและหน้าที่ในการจัดเก็บอากรขาเข้าตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรรวมทั้งภาษีการค้าภาษีบำรุงเทศบาล ตามที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลัง จำเลยสั่งและนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร โดยแสดงราคาสินค้าต่ำกว่าความเป็นจริง จำเลยจึงต้องชำระอากรขาเข้าภาษีการค้า ภาษีบำรุงเทศบาลเพิ่มอีก และจำเลยต้องเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละหนึ่งต่อเดือน จึงขอให้พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน17,854 บาท 80 สตางค์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 17,854 บาท 80 สตางค์ ยกคำขออื่น

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ฟ้องโจทก์ที่ขอให้บังคับจำเลยชำระภาษีการค้า ภาษีบำรุงเทศบาลพร้อมเงินเพิ่มให้ยก กับให้จำเลยชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในจำนวนเงินภาษีอากรและเงินเพิ่มที่จำเลยจะต้องรับผิด นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กล่าวโดยทั่วไปการจัดเก็บภาษีการค้า และภาษีบำรุงเทศบาลนั้น อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมสรรพากร ตามประมวลรัษฎากรแต่ในกรณีที่ผู้ประกอบการค้านำสินค้าเข้าในราชอาณาจักรนั้น ประมวลรัษฎากร มาตรา 78 เอกาทศ และมาตรา 78ทวาทศ ให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนดให้กรมศุลกากรเรียกเก็บภาษีการค้าเพื่อกรมสรรพากรได้ ผลจึงเท่ากับว่าในกรณีที่ผู้ประกอบการค้านำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรนั้น กรมศุลกากรมีอำนาจหน้าที่ในการจัดเก็บภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลตามกฎหมาย ซึ่งย่อมจะต้องรวมตลอดถึงการฟ้องร้องด้วยนั่นเอง กรมศุลกากรมิใช่มีฐานะเป็นเพียงตัวแทนผู้รับมอบอำนาจตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในลักษณะตัวแทนดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยดังนั้นโจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

อย่างไรก็ดี ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าประมวลรัษฎากรได้บัญญัติทางแก้ในกรณีที่ผู้ประกอบการค้าผิดนัดไม่ชำระหนี้ไว้โดยเฉพาะแล้วตาม มาตรา 89 ทวิ โดยกำหนดให้เสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1 ต่อเดือนหรือเศษของเดือน แต่มิให้เกินจำนวนภาษีที่จะต้องชำระ ดังนั้นโจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะเรียกดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันฟ้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 อีก ปัญหานี้เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ถึงแม้จำเลยจะไม่ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกปัญหาข้อนี้ขึ้นวินิจฉัยได้

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th