ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานร่วมกันโกงเจ้าหนี้และยักยอกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350, 353

ในวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้ว มีคำสั่งให้งดการไต่สวนมูลฟ้องและสอบโจทก์ โจทก์แถลงว่า ก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์มิได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งหรือคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้ประทับฟ้อง เฉพาะข้อหาฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า พยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่พอฟังลงโทษจำเลยทั้งสองได้ และคดีขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ จึงไม่วินิจฉัยปัญหาที่ว่าจำเลยกระทำความผิดจริงหรือไม่ พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ แต่ศาลอุทธรณ์ยังไม่วินิจฉัยการกระทำของจำเลยว่าเป็นความผิดหรือไม่ พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ดังฟ้องพิพากษากลับเป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 ให้จำคุกคนละ 6 เดือน

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาฟังว่า เดิมโจทก์ฟ้องนางสำเภาภรรยาโจทก์ นายการิมนายมะหะหมุด นายไฮดิน ว่านางสำเภาเอาที่ดินสินสมรสระหว่างโจทก์กับนางสำเภาไปขายให้นายการิม นายมะหะหมุดและนายไฮดิน ขอให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขาย ขณะคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นนายการิม นายมะหะหมุด นายไฮดิน เอาที่ดินแปลงนี้ไปขายให้แก่จำเลยที่ 1 โจทก์ขอให้ศาลเรียกจำเลยที่ 1 เข้ามาเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ทำลายนิติกรรมการซื้อขายระหว่างนางสำเภากับนายการิม นายมะหะหมุดและนายไฮดินกับให้ทำลายนิติกรรมการซื้อขายระหว่างนายการิม นายมะหะหมุด นายไฮดิน กับจำเลยที่ 1 ให้ลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับนางสำเภา นายการิมกับพวกและจำเลยที่ 1ฎีกา ศาลฎีกาพิพากษายืน ขณะคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาจำเลยที่ 1 ได้เอาที่ดินแปลงนี้ไปขายฝากไว้กับจำเลยที่ 2 มีกำหนดเวลาไถ่คืนเพียง 3 เดือน แล้วไม่ไถ่คืนภายในกำหนด วินิจฉัยว่าย่อมเห็นได้ชัดว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนาโอนที่ดินให้จำเลยที่ 2 เพื่อไม่ให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ของตนซึ่งได้ใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้แล้วได้รับชำระหนี้ทั้งหมด การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 ที่จำเลยอ้างว่า จำเลยที่ 1 ทำสัญญาขายฝากที่ดินไว้กับจำเลยที่ 2 เพราะเชื่อว่าศาลฎีกาจะต้องพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชนะคดีนั้น ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 พ้นจากความผิดไปได้ เพราะจำเลยที่ 1 จะต้องผูกพันตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จนกว่าศาลฎีกาจะพิพากษาเปลี่ยนแปลงแก้ไข กลับ หรืองดเสีย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น

ส่วนคดีสำหรับจำเลยที่ 2 นั้น ไม่พอฟังว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 ฎีกาของจำเลยที่ 2 ฟังขึ้น

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th