สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2570/2525

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2570/2525

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 47, 245 (1), 247

เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาทโดยฟังว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์คงมีแต่ผู้ร้องสอดเท่านั้นที่ใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาว่าที่ดินพิพาทเป็นของผู้ร้องสอดเมื่อศาลฎีกาฟังว่าที่ดินพิพาทเป็นของผู้ร้องสอด และจำเลยเข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิของผู้ร้องสอด ถือได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร้องสอดกับจำเลยในเรื่องที่ดินพิพาทเป็นเรื่องเกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ แม้จำเลยจะมิได้อุทธรณ์ฎีกาศาลฎีกาก็พิพากษาให้มีผลถึงจำเลยด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145(1),247

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองที่ดินตาม น.ส.3 หนึ่งแปลง จำเลยกับพวกเช่าที่ดินแปลงดังกล่าวจากโจทก์ทำนาโดยมิได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือ จำเลยชำระค่าเช่าให้โจทก์ครั้งสุดท้ายเมื่อปี พ.ศ. 2518 เป็นเงิน 2,000 บาท หลังจากนั้นจำเลยไม่ชำระให้โจทก์อีกเลยเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน คณะกรรมการควบคุมการเช่านามีมติให้การเช่านาสิ้นสุดลง ขอให้พิพากษาว่าการเช่านาระหว่างโจทก์กับจำเลยสิ้นสุดลง ให้จำเลยออกไปจากที่ดินโจทก์ และให้จำเลยชดใช้ค่าเช่าแก่โจทก์

จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ

ผู้ร้องสอดได้เข้ามาเป็นคู่ความโดยอ้างว่าที่ดินตามฟ้องเป็นของผู้ร้องสอดโดยซื้อมาจากโจทก์เมื่อ 20 ปี จากนั้นได้ครอบครองตลอดมา จำเลยเช่าที่พิพาทจากผู้ร้องสอด

โจทก์ยื่นคำให้การแก้คำร้องสอดว่า ก่อนจำเลยเช่าที่พิพาทจากโจทก์ผู้ร้องสอดเคยเช่าที่พิพาทจากโจทก์ทำไร่ ผู้ร้องสอดไม่ได้ซื้อที่พิพาทจากโจทก์ ทั้งไม่เคยครอบครองด้วย

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์มิได้ขายที่พิพาทให้ผู้ร้องสอดเพียงแต่ให้ผู้ร้องสอดและจำเลยเช่า พิพากษาให้การเช่านาระหว่างโจทก์จำเลยสิ้นสุดลง ให้จำเลยออกไปจากที่ดินที่เช่า ให้ยกคำร้องของผู้ร้องสอด

ผู้ร้องสอดอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องสอดฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าผู้ร้องสอดซื้อที่พิพาทจากโจทก์แล้วเป็นฝ่ายครอบครองทำประโยชน์ตลอดมา ผู้ร้องสอดจึงเป็นเจ้าของมีสิทธิครอบครองที่พิพาทแล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า เนื่องจากที่พิพาทเป็นของผู้ร้องสอด และจำเลยเข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิของผู้ร้องสอด ถือได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร้องสอดกับจำเลยในเรื่องที่พิพาทเป็นเรื่องเกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ แม้จำเลยจะมิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกาก็เห็นสมควรพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245(1), 247

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นายแป๊ะ อาจขำ โจทก์ - ผู้ร้องสอด โจทก์ - นางกิมลี้ โตจวง จำเลย - นายสวย โตจวง

ชื่อองค์คณะ อาจ ปัญญาดิลก สุไพศาล วิบุลศิลป์ ไพศาล สว่างเนตร

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE