ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันได้มาและมีไว้ซึ่งไม้สักแปรรูปเป็นกระดาษแล้วจำนวน ๒๙ แผ่น ปริมาตราเนื้อไม้ ๒.๖๕ เมตรลูกบาศก์ อันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ไว้ในความครอบครองเกินกว่า ๐.๒๐ เมตรลูกบาศก์ ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้จังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดนครสวรรค์โดยจำเลยได้นำไม้ดังกล่าวใส่บรรทุกมาในเรือหางยาวใช้เครื่องติดท้าย ๑ ลำซึ่งเป็นของจำเลยเอง โดยอยู่ในเรือ ๙ แผ่น อีก ๒๐ แผ่นจำเลยตีติดไว้ใต้ท้องเรือ ล่องมาตามลำแม่น้ำปิงจากจังหวัดกำแพงเพรชมายังจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อจะนำไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมายเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยไม้สักและเรือหางยามติดเครื่องยนต์ซึ่งเป็นยานพาหนะที่จำเลยได้ใช้ในการกะทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดนั้น กับน้ำมันเบ็นซิน ๑ ปีป น้ำมั้นเครื่อง ๑ ลิตร เป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ มาตรา ๔๘,๗๓.๗๔ (ฉบับที่ ๔)พ.ศ.๒๕๐๓ มาตรา ๑๗,๑๘ ฯลฯ กับขอให้ริบไม้สักแปรรูป เรือ และเครื่องยนต์เรือรวมทั้งน้ำมันของกลางด้วย

จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง ไม้ของกลางริบ แต่เรือ เครื่องยนต์และน้ำมันของกลางนั้นไม่ควรริบ เพราะความผิดฐานมีไม้สักแปรรูปย่อมเป็นความผิดสำเร็จอยู่ในตัวแล้ว ของกลางที่ใช้ในการบรรทุกมาจึงไม่ใช่อุปกรณ์ให้ได้รับผลหรือให้ได้ผลในการกระทำผิด

โจทก์อุทธรณ์ว่า ของกลางทั้งหมดเป็นที่สิ่งทีต้องริบตามกฎหมาย

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ริบเรือ เครื่องยนต์และน้ำมันของกลางด้วย

จำเลยฎีกาขออย่าให้ริบของกลางอย่างอื่นนอกจากไม้

ศาลฎีกาเห็นว่า ในเรื่องการริบของกลางตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ มีมาตรา ๙๔ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ ซึ่งเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๐๓ มาตรา ๑๘ ว่าบรรดาเครื่องมือ เครื่องใช้ สัตว์พาหนะ ยานพาหนะหรือเครื่องจักรกลใด ๆ ซึ่งบุคคลได้ใช้ในการกระทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดมาตรา ๑๑,๔๘,๕๔,๖๙ ให้ริบเสียทั้งสิ้น ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่ ดังนั้น การที่จำเลยนำไม้สักแปรรูปล่องไปตามลำแม่น้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานโดยใช้เรือหางยาวติดเครื่องเป็นยานพาหนะ แม้ของกลางนี้จะไม่ได้ใช้ในการได้มาและมีไว้ซึ่งไม้แปรรูป ก็ย่อมได้ชื่อว่าจำเลยได้ใช้เรือของกลางนั้นเป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทไความผิด จึงเป็นของกลางที่ต้องริบ(อ้างฎีกาที่ ๑๕๗๔/๒๕๐๕) ส่วนน้ำมันเบ็นซินกับน้ำมันเครื่องนั้น ตามฟ้องว่าจับได้เป็นของกลาง แต่ไม่ได้บรรยายว่าน้ำมันของกลางนี้ได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิดเช่นของกลางอื่น จึงยังไม่ควรริบ

พิพากษาแก้ ไม่ริบน้ำมันของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th