ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 6037, 6138 และบ้านเลขที่ 194/48-49 ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินดังกล่าว จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของอาคารเลขที่ 194/47 ซึ่งปลูกอยู่บนโฉนด เลขที่ 6135ได้ปลูกรุกล้ำเข้ามาในที่ดินของโจทก์ประมาณ 20 เซนติเมตร ยาวประมาณ 8 เมตร ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอน

จำเลยให้การว่า จำเลยรับโอนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมาจากนายชูชัย โจทก์รับโอนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมาจากนายมนต์ชัย จำเลยปลูกสร้างอาคารโดยสุจริตและครอบครองมาเกินกว่า 10 ปีแล้ว โจทก์ไม่อาจบังคับให้รื้อถอนได้

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แล้ว ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยประเด็นอื่น พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า 'พิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงที่โจทก์จำเลยไม่โต้เถียงกันรับฟังได้ว่าตึกแถวโจทก์จำเลยอยู่ติดกัน เดิมที่ดินและตึกแถวของโจทก์จำเลยเป็นของเจ้าของคนเดียวกันฝ่ายโจทก์จำเลยต่างก็เช่าตึกแถวจากเจ้าของเดิมครั้นที่ดินและตึกแถวที่ฝ่ายโจทก์เช่าอยู่นั้นถูกโอนมาเป็นกรรมสิทธิ์ของนายมนต์ชัย ส่วนที่ฝ่ายจำเลยเช่าถูกโอนมาเป็นกรรมสิทธิ์ของนายชูชัย โจทก์จำเลยก็ยังคงอยู่ในตึกแถวที่ตนเคยอยู่ต่อไประหว่างที่ดินและตึกแถวตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของคนใหม่นั้น จำเลยได้รื้อตึกแถวเก่าของตนแล้วปลูกสร้างขึ้นใหม่แทนที่สิ่งก่อสร้างที่รื้อออกไปภายในเขตแนวเดิม ส่วนฝ่ายโจทก์ได้รื้อครัวที่ปลูกสร้างอยู่ด้านหลังตึกแถวโจทก์และติดกับผนังตึกด้านข้างตึกแถวจำเลยแล้วปลูกสร้างขึ้นใหม่พร้อมกันโดยใช้ผนังด้านหลังของตึกห้องครัวโจทก์กับผนังด้านข้างของตึกแถวจำเลยร่วมกัน และว่าจ้างช่างปลูกสร้างคนเดียวกัน โดยไม่ปรากฏว่าเจ้าของที่ดินเดิมทักท้วงห้ามปราม ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ว่าบางส่วนของที่ดินที่จำเลยปลูกสร้างตึกแถวนั้นอยู่ในโฉนดที่โจทก์ซื้อ แต่จำเลยเข้าใจในขณะปลูกสร้างว่าที่ดินตรงที่ปลูกสร้างนั้นเป็นที่ดินที่อยู่ในโฉนดเลขที่ 6135 จึงเป็นกรณีที่จำเลยอาศัยสิทธิของเจ้าของที่ดินตามสภาพที่เป็นอยู่ปลูกสร้างตึกแถวในที่ดินโจทก์หรือนายมนต์ชัย เจ้าของเดิมที่จำเลยเข้าใจว่าจำเลยมีสิทธิปลูกสร้างได้ และเป็นการปลูกสร้างโดยสุจริตหลังจากที่ดินและตึกแถวนั้นโอนตกมาเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์จำเลยแล้วโจทก์จำเลยก็ยังคงครอบครองที่ดินและตึกแถวเป็นส่วนสัดภายในเขตในส่วนที่ตนเคยอยู่แต่ครั้งยังเป็นผู้เช่าตลอดเรื่อยมา พฤติการณ์ระหว่างโจทก์และจำเลยดังกล่าวแสดงว่าโจทก์และนายมนต์ชัยยินยอมให้จำเลยปลูกสร้างตึกแถวบนที่ดินตามสภาพที่เป็นอยู่แต่ครั้งยังเป็นของนายมนต์ชัยโดยไม่ได้ทักท้วงห้ามปราม ซึ่งพฤติการณ์เช่นนี้ น่าเชื่อว่าจำเลยได้ใช้สิทธิอำนาจปรปักษ์เข้าครอบครองที่ดินในส่วนที่รุกล้ำที่ดินโจทก์ สืบสิทธิของนายชูชัย เจ้าของเดิม โดยความสงบและโดยเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ตั้งแต่จำเลยได้ปลูกสร้างตึกแถวเป็นต้นไปซึ่งนับถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปีแล้ว จำเลยย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโจทก์ในส่วนถูกตึกแถวจำเลยปลูกรุกล้ำโดยการครอบครองปรปักษ์โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้จำเลยรื้อถอนตึกแถวในส่วนรุกล้ำที่ดินโจทก์แต่อย่างใดที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น'

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th