สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2599/2525

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2599/2525

พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ม. 92, 96 (3), 107 (1), 115, 151

เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้กู้ยืมเงินในฐานะเจ้าหนี้มีประกันได้ความว่าลูกหนี้ได้กู้เงินจากเจ้าหนี้โดยทำสัญญาจำนองที่ดินเป็นประกัน โดยทำสัญญาจำนองและรับเงินกันในระหว่างระยะเวลาสามเดือนก่อนมีการขอให้ลูกหนี้ล้มละลายกรณีเช่นนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งเพิกถอนการจำนองรายนี้ตามมาตรา 115 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย เมื่อศาลสั่งเพิกถอนแล้ว เจ้าหนี้ยังมีสิทธิขอรับชำระหนี้เดิมได้ตามมาตรา 92การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เสนอความเห็นต่อศาลชั้นต้นให้ยกคำขอรับชำระหนี้รายนี้ตามมาตรา 107(1) นั้น เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายที่ไม่ชอบศาลมีอำนาจสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กระทำใหม่ให้ถูกต้องได้ตามมาตรา151

เนื้อหาฉบับเต็ม

เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ในฐานะเป็นเจ้าหนี้มีประกันตามมาตรา 96(3) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำความเห็นว่าการกู้ยืมและจำนองรายนี้ได้กระทำระหว่างระยะเวลาสามเดือนก่อนมีการขอให้ลูกหนี้ล้มละลาย เป็นการมุ่งหมายให้เจ้าหนี้รายนี้ได้เปรียบแก่เจ้าหนี้อื่นตามมาตรา 115 สมควรให้ยกคำขอรับชำระหนี้ตามมาตรา 117(1)

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้รายนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

เจ้าหนี้อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามคำขอ

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เจ้าหนี้รายนี้ขอรับชำระหนี้กู้ยืมเงินในฐานะเจ้าหนี้มีประกันตามมาตรา 96(3) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483ข้อเท็จจริงได้ความจากการสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า ลูกหนี้ได้กู้เงินจากเจ้าหนี้เป็นจำนวน 300,000 บาท ตกลงให้ดอกเบี้ยร้อยละ 12 ต่อปี ได้ทำสัญญาจำนองที่ดินเป็นประกัน โดยทำสัญญาจำนองและรับเงินตามสัญญากู้ในวันเดียวกัน คือวันที่ 13 กันยายน 2522 ต่อมาวันที่ 12 ธันวาคม 2522 ลูกหนี้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์การกู้ยืมเงินและจำนองรายนี้จึงอยู่ในระหว่างระยะเวลาสามเดือนก่อนมีการขอให้ลูกหนี้ล้มละลาย

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กรณีนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งเพิกถอนการจำนองรายนี้ตามมาตรา 115 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 เมื่อศาลสั่งเพิกถอนแล้วเจ้าหนี้ก็ยังมีสิทธิขอรับชำระหนี้เดิมได้ตามมาตรา 92 การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เสนอความเห็นต่อศาลชั้นต้นให้ยกคำขอรับชำระหนี้รายนี้ตามมาตรา 107(1) นั้น เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายที่ไม่ชอบ ศาลมีอำนาจสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กระทำใหม่ให้ถูกต้องได้ตามมาตรา 151 ซึ่งจะเป็นธรรมแก่เจ้าหนี้ทุกฝ่าย ฉะนั้นคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำขอรับชำระหนี้รายนี้และคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ที่พิพากษากลับให้เจ้าหนี้รายนี้ได้รับชำระหนี้เต็มจำนวน จึงเป็นคำสั่งและคำพิพากษาที่ไม่ชอบ

พิพากษายกคำสั่งและคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายต่อไป

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นายชัยยศ ศิริกุล จำเลย - ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.ทวีสิน กับพวก จำเลย - ผู้ขอรับชำระหนี้ จำเลย - นางสาวสุณี หวังสัจจะโชค

ชื่อองค์คณะ นิยม ติวุตานนท์ สุวัฒน์ รัตรสาร ดุสิต วราโห

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE