สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2621/2539

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2621/2539

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1754

อายุความตามมาตรา1754ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เป็นอายุความห้ามฟ้องคดีมรดกหรือคดีที่เจ้าหนี้ขอบังคับตามสิทธิเรียกร้องอันมีต่อเจ้ามรดกส่วนคดีที่เจ้ามรดกเป็นเจ้าหนี้มิได้กำหนดอายุความไว้เป็นพิเศษในมาตรา1754เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นทายาทและเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายฟ้องเรียกร้องให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้เงินกู้ที่จำเลยทั้งสองกู้ยืมผู้ตายไปแม้โจทก์จะฟ้องเมื่อพ้นกำหนด1ปีนับแต่เจ้ามรดกตายคดีโจทก์ก็ไม่ขาดอายุความเพราะคดีนี้ไม่ได้เป็นคดีมรดกหรือเป็นคดีที่เจ้าหนี้ขอบังคับตามสิทธิเรียกร้องอันมีต่อเจ้ามรดกไม่ตกอยู่ในบังคับมาตรา1754

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนายประมุข สุวรรณศิลป์ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2525 จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันกู้ยืมเงินนายประมุขไปจำนวน 3,000,000 บาท สัญญาจะให้ดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จำเลยทั้งสองได้รับเงินจำนวนที่กู้ไปครบถ้วนแล้ว หลังจากนายประมุขถึงแก่กรรมโจทก์มีหนังสือทวงถามจำเลยทั้งสองให้ชำระหนี้ จำเลยทั้งสองเพิกเฉยโจทก์ขอคิดดอกเบี้ยนับแต่วันทำสัญญากู้ถึงวันฟ้องเป็นเวลา 5 ปีเป็นเงินจำนวน 2,250,000 บาท รวมหนี้ทั้งหมดจำนวน 5,250,000 บาทขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 5,250,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยทั้งสองให้การว่า นายประมุขถึงแก่กรรมเมื่อวันที่1 กันยายน 2526 แต่โจทก์ฟ้องคดีวันที่ 25 มีนาคม 2535 พ้นกำหนด1 ปีแล้ว คดีโจทก์จึงขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน5,250,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จากต้นเงิน3,000,000 บาท นับถัดจากวันฟ้อง (วันที่ 25 มีนาคม 2535) จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2526 นายประมุข สุวรรณศิลป์เจ้ามรดกตาย ต่อมาศาลมีคำสั่งตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดก ก่อนนายประมุขถึงแก่ความตาย จำเลยทั้งสองได้ลงลายมือชื่อเป็นผู้กู้เงินผู้ตายจำนวน 3,000,000 บาท

มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองต่อไปว่า โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อพ้น 1 ปีนับแต่เจ้ามรดกตาย คดีของโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 นั้น เห็นว่า อายุความตามมาตรา 1754 เป็นอายุความห้ามฟ้องคดีมรดกหรือคดีที่เจ้าหนี้ขอบังคับตามสิทธิเรียกร้องอันมีต่อเจ้ามรดก ส่วนคดีที่เจ้ามรดกเป็นเจ้าหนี้มิได้กำหนดอายุความไว้เป็นพิเศษในมาตรา 1754 แต่อย่างใด เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นทายาทและผู้จัดการมรดกของนายประมุขผู้ตายฟ้องเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ที่จำเลยทั้งสองกู้เงินของผู้ตายไป แม้โจทก์จะฟ้องเมื่อพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกตายคดีของโจทก์ก็ไม่ขาดอายุความเพราะคดีนี้ไม่เป็นคดีมรดกหรือเป็นคดีที่เจ้าหนี้ขอบังคับตามสิทธิเรียกร้องอันมีต่อเจ้ามรดก หากแต่เป็นกรณีกองมรดกเป็นเจ้าหนี้เรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับอายุความไม่ตกอยู่ในบังคับแห่งมาตรา 1754 ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาง ชูศรี สุวรรณศิลป์ จำเลย - นาง ลออ สุภาพงษ์หรือภู่อารีย์ กับพวก

ชื่อองค์คณะ สวรรค์ ศักดารักษ์ อุดม มั่งมีดี สันติ ทักราล

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th