ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ทั้งสามสำนวนฟ้องขอให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงานโดย จ่ายค่าจ้างค้างจ่ายจำนวนตามฟ้องแก่โจทก์ จำเลยทั้งสามสำนวนขาดนัดและขาดนัดพิจารณา ศาลแรงงานกลางจึงพิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียว

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าจ้างแก่โจทก์

วันที่ 8 มิถุนายน 2535 จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลแรงงานกลางว่า จำเลยมิได้จงใจขาดนัด เหตุที่ไม่ยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาเพราะจำเลยไม่ทราบว่าถูกฟ้อง เนื่องจากจำเลยดูแลอาการเจ็บป่วยของมารดาที่จังหวัดนครสวรรค์ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2535จนกระทั่งมารดาจำเลยได้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2535จำเลยได้อยู่จัดงานศพให้เป็นที่เรียบร้อยและเดินทางกลับถึงกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2535 และตัวจำเลยก็ต้องเข้ารักษาพยาบาลตัวเองที่โรงพยาบาลเพราะเจ็บป่วยตั้งแต่วันที่2 ถึง 3 มิถุนายน 2535 จำเลยออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านเมื่อตอนเย็นของวันที่ 3 มิถุนายน 2535 ต่อมาวันที่ 4จึงทราบว่าจำเลยถูกฟ้องร้องและบังคับคดี ทำให้ไม่มีโอกาสได้ต่อสู้คดีและไม่อาจยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด ถ้าจำเลยมีโอกาสต่อสู้คดี คำพิพากษาจะต้องเปลี่ยนแปลงไปเป็นให้จำเลยชนะคดี เพราะหนี้ที่โจทก์ทั้งสามนำมาฟ้องไม่เป็นความจริง ความจริงจำเลยได้ชำระค่าจ้างให้โจทก์ทั้งสามไปหมดแล้วและโจทก์ทั้งสามยังได้เบิกเงินค่าจ้างจากจำเลยเกินไปอีก ขอให้ศาลแรงงานกลางอนุญาตให้จำเลยให้การและพิจารณาคดีใหม่

ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า จำเลยมิได้ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ภายใน 7 วัน ตามมาตรา 41 พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 ให้ยกคำร้องจำเลยทั้งสามสำนวนอุทธรณ์ ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า "ตามคำร้องของ จำเลยได้อ้างถึงข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุและความจำเป็นที่มิได้ยื่นคำให้การและมาศาลในวันนัดพิจารณา ก็เพราะไม่ทราบว่าถูกฟ้องและไม่ทราบวันนัดเนื่องจากจำเลยไปรักษาพยาบาลมารดาอยู่ต่างจังหวัดในระหว่างวันที่ถูกฟ้องถึงวันที่ศาลชี้ขาดตัดสินคดีและมีการส่งคำบังคับเพิ่งมาทราบเรื่องที่ถูกฟ้องและบังคับคดีเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2535 ศาลฎีกาเห็นว่า ถ้าข้อเท็จจริงเป็นดังที่จำเลยอ้างแล้ว จำเลยก็ย่อมไม่สามารถมาแถลงให้ศาลแรงงานกลางทราบถึงความจำเป็นที่ไม่อาจมาศาลได้ภายในกำหนด 7 วัน ตามพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522ได้เป็นธรรมดาอยู่เอง กรณีเช่นนี้ต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 มาใช้บังคับแก่การพิจารณาคดีโดย อนุโลมตามพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 31 ที่ศาลแรงงานกลางสั่งยกคำร้องของจำเลยโดยมิ ไต่สวนให้ได้ความจริงก่อนนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามสำนวนฟังขึ้น"

พิพากษายกคำสั่งของศาลแรงงานกลาง ให้ศาลแรงงานกลางไต่สวนคำร้องของ จำเลยทั้งสามสำนวนแล้วมีคำสั่งใหม่ต่อไป

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th