โจทก์ฟ้องและจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันมีไม้แปรรูป ปริมาตร 0.30 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ไว้ในความครอบครอง โดยไม่เสียค่าภาคหลวงและโดยไม่รับอนุญาต ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้และมีผู้แจ้งความเพื่อขอรับสินบนนำจับ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสองมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองเฉลี่ยแล้วเป็นจำนวนไม่เกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นความผิดแม้จะรับสารภาพก็ลงโทษไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามฟ้อง จำคุกคนละ 2 เดือนจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จำคุกคนละ 1 เดือนริบของกลางไม่จ่ายสินบนนำจับ

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดจริงตามฟ้องโจทก์ข้อเท็จจริงต้องฟังว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันมีไม้หวงห้ามแปรรูป จำนวน 24 แผ่น ปริมาตร 0.30 ลูกบาศก์เมตรไว้ในความครอบครองอันถือได้ว่า จำเลยทั้งสองเป็นตัวการร่วมกันกระทำผิดฐานมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในความครอบครองเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร จำเลยทั้งสองจะอ้างว่า จำเลยแต่ละคนครอบครองไม้หวงห้ามแปรรูปกันไม่เกินคนละ 0.20 ลูกบาศก์เมตรหาได้ไม่ แต่ไม้หวงห้ามที่จำเลยทั้งสองร่วมกันมีไว้ในครอบครองเป็นจำนวนเพียงเล็กน้อยจำเลยทั้งสองไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน รูปคดีมีเหตุสมควรรอการลงโทษ

พิพากษาแก้เป็นว่า จำคุกจำเลยคนละ 2 เดือน ปรับคนละ 2,000 บาท จำเลยทั้งสองรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จำคุกคนละ 1 เดือน ปรับคนละ 1,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี จ่ายเงินสินบนกึ่งหนึ่งแก่ผู้นำจับนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา