โจทก์ฟ้องว่า ผู้เสียหายได้นำผ้า 4 กล่องไปฝากไว้กับจำเลย จำเลยได้รับมอบผ้านั้นไว้ในความครอบครอง แล้วจำเลยโดยเจตนาทุจริตได้เบียดบังยักยอกผ้าทั้ง 4 กล่อง ดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ของตน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 จำคุก 2 เดือน ให้จำเลยคืนทรัพย์หรือใช้ราคาแก่ผู้เสียหาย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2521 เวลาประมาณ 16 นาฬิกา ผู้เสียหายได้นำผ้าจำนวน 4 กล่องไปฝากไว้กับจำเลยซึ่งเป็นพนักงานขายตั๋วรถทัวร์และรับฝากสิ่งของจากผู้โดยสาร จำเลยได้รับมอบผ้าทั้ง 4 กล่องจากผู้เสียหายไว้ในความครอบครองของจำเลย แล้วในวันนั้นเองระหว่างเวลาประมาณ 16-20 นาฬิกา เวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยโดยเจตนาทุจริตได้เบียดบังยักยอกผ้าทั้ง 4 กล่องดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ของตน ดังนี้ ฟ้องโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) และครบองค์ประกอบความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 แล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 225/2523 ระหว่างพนักงานอัยการกรมอัยการ โจทก์ นายอมร พงษ์วิทยากรณ์ โจทก์ร่วม นายวรศักดิ์ พฤกษ์พรรณชัยกับพวก จำเลย

พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา