ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับนายมานัสซึ่งเป็นพลเรือนได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงจ่าสิบตำรวจพรชัยผู้ตายโดยเจตนาฆ่าและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ผู้ตายถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289, 83

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(4), 83

โจทก์และจำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คืนเกิดเหตุนายมานัสกับจำเลยรับประทานอาหารที่ร้านรุ่งโภชนา แล้วนายมานัสขอติดค้างค่าอาหารต่อเจ้าของร้าน จ่าสิบตำรวจพรชัย ผู้ตายซึ่งรับประทานอาหารอยู่ที่โต๊ะข้างเคียง ได้พูดให้นายมานัสกับจำเลยชำระค่าอาหาร จำเลยจึงชำระ นายมานัสไม่พอใจได้โต้เถียงกับผู้ตาย 2 - 3 นาที หลังจากนั้นนายมานัสกับจำเลยพากันไปเอาอาวุธปืนเอ็ม .16 ที่บ้านของนายมานัสจำเลยเอาลูกระเบิดแบบขว้างติดตัวมาด้วย 1 ลูก เมื่อกลับมาถึงร้านอาหาร จำเลยถือลูกระเบิดยืนเกาะประตูรถอยู่ นายมานัสเข้าไปยิงผู้ตายซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร 2 นัด ถึงแก่ความตายทันที แล้วนายมานัสกับจำเลยหลบหนีไปด้วยกัน ศาลฎีกาเห็นว่า สาเหตุที่นายมานัสยิงผู้ตายก็เนื่องมาจากนายมานัสกับจำเลยโกรธแค้นผู้ตายที่มาพูดเชิงบังคับให้ชำระค่าอาหารแก่เจ้าของร้าน เมื่อนายมานัสกลับไปบ้านเอาอาวุธเอ็ม .16 มาเพื่อฆ่าผู้ตายนั้น จำเลยได้เอาลูกระเบิดแบบขว้างติดตัวมาด้วย 1 ลูก และตอนที่นายมานัสลงจากรถสองแถวไปที่ร้านอาหารจำเลยก็ถือลูกระเบิดยืนเกาะประตูรถอยู่ แสดงว่าจำเลยทราบดีว่านายมานัสจะไปยิงผู้ตาย จำเลยจึงได้ถือลูกระเบิดเตรียมพร้อมไว้เพื่อช่วยเหลือหากนายมานัสพลาดพลั้งกลับมา เพราะจำเลยทราบดีแล้วว่าผู้ตายเป็นตำรวจอาจมีการต่อสู้กันขึ้นก็ได้ เมื่อนายมานัสยิงผู้ตายแล้วกลับมาที่รถ จำเลยถามนายมานัสว่าตายไหม อันเป็นการถามเพื่อให้ทราบว่าการกระทำของนายมานัสบรรลุผลตามเจตนาของนายมานัสกับจำเลยหรือไม่นั่นเอง ถ้าจำเลยไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำของนายมานัสแล้ว จำเลยย่อมจะปลีกตัวกลับบ้านเสียได้ตั้งแต่จำเลยชำระค่าอาหารข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าจำเลยได้ร่วมกับนายมานัสฆ่าผู้ตาย

นายมานัสกับจำเลยโกรธแค้นผู้ตายที่มาพูดให้ชำระค่าอาหาร จึงเกิดความคิดที่ฆ่าผู้ตายเสีย แต่ในขณะนั้นทั้งนายมานัสและจำเลยต่างไม่มีอาวุธจึงได้พากันไปเอาอาวุธปืนเอ็ม .16 ที่บ้านของนายมานัส แล้วกลับมายิงผู้ตายในขณะที่ยังรับประทานอาหารอยู่ที่เดิม พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่านายมานัสกับจำเลยมีความตั้งใจจะฆ่าผู้ตาย จึงได้ตัดสินใจกลับไปเอาอาวุธปืนมายิงผู้ตายเพราะความโกรธแค้น การกระทำของนายมานัสกับจำเลยจึงเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4)

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th